ในระยะ 2-3 ปีมานี้ อุตสาหกรรมไทยหลายแขนงแสดงความต้องการที่จะนำนาโนเทคโนโลยีมาใช้ปรับปรุงการผลิต หรือ ปรับปรุงผลิตภัณฑ์ หรือ เพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันกับต่างประเทศ จากการพูดคุยกับบริษัทใหญ่ๆ เช่น ปตท. และ เครือซีเมนต์ไทย ทำให้ทราบว่าเขามีความต้องการเพิ่มมูลค่าพลาสติกและเคมีภัณฑ์ ซึ่งนับวันจะเผชิญการแข่งขันกับปิโตรเคมีจากเวียดนาม เบทาโกร ต้องการเพิ่มมูลค่าอาหารและปรับปรุงประสิทธิภาพการจัดการฟาร์ม บริษัทเหล่านั้นตระหนักว่าบริษัทคู่แข่งต่างชาติต่างมีเทคโนโลยีนี้ในมือ นอกจากนั้นยังมีบริษัทขนาด SME จำนวนมากขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ที่มีความต้องการนาโนเทคโนโลยีเข้าไปใช้ปรับปรุงผลิตภัณฑ์ เช่น บริษัทผลิตเลนส์แว่นตา บริษัทผลิตเครื่องกรองน้ำ บริษัทผลิตสุขภัณฑ์ บริษัทผลิตสี บริษัทผลิตวัสดุก่อสร้าง บริษัทผลิตเครื่องดื่ม ฯลฯ แม้แต่สปาก็ยังอยากมีนาโนเทคโนโลยีไปใช้เสริมแบรนด์ ดังนั้นเมื่อทางฝั่ง Demand มีความต้องการมากถึงเพียงนี้ จึงมีความจำเป็นที่ฝั่ง Supply คือนักวิจัยและผู้ให้ทุนจะต้องตอบสนองโดยการกำหนดยุทธศาสตร์ในการให้ทุน อย่างชัดเจน เพื่อทำให้งานวิจัยทางด้านนาโนเทคโนโลยีจากมหาวิทยาลัยไปถึงผู้ประกอบการจริงๆ และนี่คือโจทย์ที่หน่วยงานระดับชาติ อย่าง สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) และ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) กำลังเกาะติดอย่างใกล้ชิด
(ภาพซ้ายมือ - ประเทศไทยมีความหลากหลายในเรื่องของงานวิจัยมาก จนดูเหมือนขาด Focus แต่ถ้ามีการบริหารจัดการดีๆ ความหลากหลาย ก็กลับกลายเป็นความสวยงามได้ งานวิจัยต่างสาขาที่มารวมกลุ่มกัน จะสร้างสีสรรเหมือนขนมไทย ที่ดูน่ากิน น่าซื้อ)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น