
การบรรจบและหลอมรวมกันของศาสตร์ต่างๆ กำลังจะทำให้การทหาร และสงครามสมัยใหม่ มีทั้งความน่ากลัวและความปลอดภัยมากขึ้น ที่น่ากลัวก็คือหากทหารฝ่ายเราไม่มีเทคโนโลยีดังกล่าว ก็จักต้องพบกับความพ่ายแพ้ ที่ปลอดภัยก็คือ ความสูญเสียต่อพลเรือน แม้กระทั่งตัวทหารเองจะลดลงมาก จนกระทั่งผลแพ้-ชนะ อาจตัดสินกันในไม่กี่ชั่วโมง โดยผู้ที่ทำการรบอาจไม่เคยเห็นหน้ากันเลย การรบสมัยใหม่ อาจจะเป็นการรบระหว่างหุ่นยนต์ของฝ่ายเรา กับหุ่นยนต์ของฝ่ายข้าศึก โดยผลแพ้ชนะอาจทำให้มนุษย์ตัดสินใจยุติสงครามโดยไม่ต้องเสียชีวิตมนุษย์ หรือบางที การรบอาจจะทำด้วยการจำลองในคอมพิวเตอร์ แม่ทัพนายกองทั้งสองฝ่ายมาประลองชัยกันในสนามรบไซเบอร์ ผลออกมาอย่างไร ก็ให้ยุติ และเลิกลาต่อกันโดยไม่ต้องมีการสั่งกำลังพล และอาวุธจริงออกไปใช้เลย
เป็นที่ยอมรับกันว่า ความเจริญก้าวหน้าทางด้านการทหาร ของประเทศสหรัฐอเมริกา ส่วนหนึ่งมาจากการวิจัยและพัฒนาอาวุธ และเทคโนโลยีทางทหารในมหาวิทยาลัย ประเทศสหรัฐอเมริกามีระบบการจัดการงานวิจัยด้านกลาโหมที่แข็งแกร่งมาก ในปัจจุบัน หลายๆ ประเทศเริ่มหันมาใช้โมเดลนี้กันมากขึ้นครับ จนเกิดประชาคมวิจัยทางด้านวิทยาศาสตร์กลาโหม หรือ Defense Science Research ขึ้น ซึ่งในปีหน้านี้เอง จะมีการจัดประชุมวิชาการทางด้านนี้ ซึ่งมีชื่อว่า Defense Science Research 2011 โดยจะจัดที่ประเทศสิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 3-6 สิงหาคม 2554 โดยมีกำหนดส่ง Full Paper ในวันที่ 15 ธันวาคม 2553 นี้ ตัวผมเองคาดว่าจะส่งผลงานประมาณ 4 เรื่อง เนื่องจากในการประชุมนี้ มีการจัดแสดงนิทรรศการอาวุธ และเทคโนโลยีกลาโหมด้วย โดยจะมีนักยุทธศาสตร์ทางการทหาร หน่วยงานความมั่นคงจากประเทศต่างๆ เข้าประชุมด้วย ถ้าหากเทคโนโลยีที่เรานำไปแสดงเข้าตาบุคคลเหล่านี้ เขาก็อาจสนใจซื้อเทคโนโลยีเราไปใช้ก็ได้นะครับ
เนื้อหาการประชุมของ DSR 2011 นี้ค่อนข้างกว้าง ถึงแม้จะมีการกำหนด Theme ก็ตาม ก็ยังมีมากถึง 10 Theme เลยครับ ครอบคลุมศาสตร์ทั้งอากาศยาน สิ่งแวดล้อม วิศวกรรมชีวภาพ ระบบลำเลียง ระบบตรวจวัดสุขภาพ รวมไปถึงเรื่องบันเทิงด้วย รายละเอียดแต่ละ Theme ก็ลองเข้าไปศึกษาดูจากเว็บไซต์นะครับ ....