แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ petrochemicals แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ petrochemicals แสดงบทความทั้งหมด

30 มิถุนายน 2551

The Rise of Oil and the End of Oil Business


ข่าวที่ประเทศซาอุดิอาระเบียจะมาตั้งบริษัทเพื่อปลูกข้าวในประเทศไทย เป็นเรื่องจริงจัง ไม่ใช่เรื่องที่ปลุกกระแสขึ้นมาใช้เล่นงานคู่แข่งในทางการเมือง ไม่ใช่แค่ซาอุฯ เท่านั้นหรอกครับที่อยากเข้ามา ชาติอาหรับทั้งหลายอยากเข้ามาทั้งนั้น แล้วเขาไม่ได้มองแค่เรื่องข้าวเท่านั้น เขาคิดจะเข้ามาในประเทศไทย เพื่อพัฒนาระบบเกษตรความแม่นยำสูง และ ฟาร์มอัจฉริยะ เพื่อใช้ผลิตพืชผลเกษตรแบบทันสมัย แล้วขายให้ได้ราคาอย่างน้ำมันด้วย เขามองว่าทรัพยากรน้ำมันใต้ดินของเขานั้นมันไม่จีรัง เงินกำไรที่ได้จากน้ำมันในช่วงนี้ เขาใช้มันทุกบาททุกสตางค์เพื่อพัฒนาประเทศ วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ธุรกิจใหม่ ไม่ว่าจะเป็นพลังงานทางเลือก นาโนเทคโนโลยี ปิโตรเคมี การท่องเที่ยว การแพทย์ การศึกษา เขาตั้งใจจะเป็นศูนย์กลางการเงินของโลก ศูนย์กลางเทคโนโลยีพลังงานทางเลือก ศูนย์กลางการแพทย์ ศูนย์รวมการศึกษา เงินที่ได้จากน้ำมันตอนนี้ เขาทุ่มเททางนี้หมด จะเห็นว่ามีโปรเจคต์ใหม่ๆ ออกมาเพียบที่ทำให้โลกตะลึง ไม่ว่าจะเป็น Masdar City เมืองพลังงานทางเลือก งานอลังการแนว Geoengineering อย่าง Palm Island ผู้นำของซาอุดิอาระเบียกล่าวว่า ธุรกิจน้ำมันของซาอุฯนั้นมีมูลค่า 1/3 ของ GDP ซึ่งถือว่าสูงเกินไป เพราะธุรกิจน้ำมันมีลักษณะ Capital-Intensive หรือใช้ทุนเยอะ แต่เกิดการจ้างงานน้อย ธุรกิจอื่นที่ไม่ใช่น้ำมัน จะจ้างงานได้มากกว่าเยอะ ซาอุจึงจำเป็นต้องสร้างธุรกิจที่ไม่เกี่ยวกับน้ำมันขึ้นมามากๆ เห็นหรือยังครับ ประเทศไทยไม่น่าภูมิใจเลยที่บริษัท ปตท. ของเราติด 500 อันดับของโลก เพราะบริษัทนี้ไม่ได้สร้างงานให้คนไทยนักหรอกครับ เห็นวิสัยทัศน์ประเทศที่เป็นเจ้าของทรัพยากรน้ำมันแล้วก็อึ้ง .......


ไม่แปลกหรอกครับที่เขาให้ความสนใจลงทุนเรื่องเกษตรในประเทศไทย เพราะอีกไม่นาน เขาต้องการมาเรียนรู้การผลิตอาหารในบ้านเรา อีกอย่างตอนนี้เขาพัฒนาอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ซึ่งกำลังขึ้นมาแข่งขันกับ ปตท. และ SCG ของเราครับ เขากำลังสร้างโรงงานผลิตปุ๋ยที่ใหญ่ที่สุดในโลก ปุ๋ยที่ผลิตได้ก็จะมาตีตลาดบ้านเราในไม่ช้า ผลิตภัณฑ์พลาสติกของเขาก็จะมาใช้ทางการเกษตรและอาหารในบ้านเราด้วย นี่แหล่ะครับ เขาใช้น้ำมัน เพื่อจะออกจากธุรกิจน้ำมัน ..........

26 พฤษภาคม 2551

Energy Fantasia - สวรรค์แห่งพลังงาน


ช่วงนี้ผมพูดเรื่องวิกฤตน้ำมันบ่อยครับ เพราะนับวันภาพมันยิ่งชัดเจนขึ้นทุกทีๆ ว่า ยุคแห่งพลังงานราคาถูกได้จบลงแล้ว จะว่าไปแล้วเราอาจจะไม่รู้ตัวครับว่า ในศตวรรษที่ผ่านมาเราอยู่ในยุคแห่ง Energy Fantasia คือมีพลังงานให้ใช้ในราคาถูกมากๆ พลังงานที่ว่านี้ก็มาจากน้ำมันนี่แหล่ะครับ ราคาที่ถูกแสนถูกของมันน่ะทำให้อารยธรรมของเราเจริญได้ขนาดนี้ น้ำมันเป็นวัตถุดิบสำคัญของระบบทุนนิยม และ Globalization เลยล่ะครับ ไม่มีมันเมื่อไหร่ ระบบทุนนิยมสูญสลายเป็นแน่แท้ทีเดียว จะหาพลังงานอะไรที่ถูกแบบนี้อีก ผมยังจำวันที่น้ำมันเบนซินราคาแค่ 7-8 บาทต่อลิตร เมื่อตอนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ยังคิดเลยว่าเวลาผ่านไปหลายๆ ปี อะไรต่ออะไรก็แพงขึ้น แต่ทำไมน้ำมันยังถูกอยู่เลย วันนี้แพงสมใจแล้วครับ ราคาน้ำมันได้สะท้อนราคาที่แท้จริงของมันแล้วครับ ผู้คนมักบอกว่าน้ำมันแพงแสนแพง ถ้ามันแพงจริง แล้วทำไมพลังงานอื่นยังสู้น้ำมันไม่ได้ล่ะครับ ทำไมพลังงานแสงอาฑิตย์ พืชพลังงาน พลังงานชีวมวลถึงยังไม่มาเสียที เพราะอะไรครับ ..... ก็เพราะว่าพลังงานพวกนั้นก็ยังไม่ถูกกว่าน้ำมันจริงๆ ถึงตอนนี้เรากำลังจะกลับมาอยู่ในยุคที่ต้นทุนพลังงานสูงขึ้น ยุคแห่ง Energy Fantasia จบลงแล้วครับ เพราะเมื่อเราพยายามหาพลังงานอื่นๆมาทดแทนมากขึ้นเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งตระหนักว่าพลังงานนั้นมีต้นทุนที่แพงจริงๆ พลังงานจากฟอสซิลเป็นสิ่งที่มหัศจรรย์มากเลยครับ มันเก็บเกี่ยวและบรรจุตัวเนื้อพลังงานไว้สูงมากๆ จนการนำเอาออกมาใช้สามารถทำได้ในราคาที่แสนถูก ถูกจนไร้คู่แข่ง ทั้งในอดีต และอนาคต ......


(ภาพบน - เมื่อโลกไร้น้ำมัน อารยธรรมก็ถึงกาลดับสูญ เพราะไม่เพียงแต่มันจะใช้ขับเคลื่อนยานยนตร์บนท้องถนนเท่านั้น เสื้อผ้าสมัยใหม่เป็นผลผลิตจากปิโตรเคมีทั้งนั้น)

01 มีนาคม 2551

ซาอุดิอาระเบียร่วม IBM ตั้งศูนย์ความเป็นเลิศนาโนเทคโนโลยี


ช่วงนี้ประเทศที่ร่ำรวยน้ำมันในตะวันออกกลางทั้งหลาย ล้วนพยายามขับเคลื่อนตัวเองไปสู่ประเทศที่มีความก้าวหน้าสูง โดยพยายามผันกำไรจากรายได้น้ำมัน ที่เพิ่มขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ให้มาพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ ดูไบพยายามสร้างสถาปัตยกรรมริมทะเลที่เก๋ไก๋ที่สุดในโลก สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์สร้างเมืองแห่งพลังงานทางเลือกขึ้น เพราะรู้ว่าอนาคตของพลังงานจะไม่ได้ขึ้นอยู่กับน้ำมันอีกต่อไป ชาติอาหรับต่างรู้ดีเช่นนี้ จึงพยายามนำผลกำไรที่กอบโกยได้ในช่วงนี้ มาลงทุนให้เป็นผู้นำในด้านที่จะเป็นอนาคต เพื่อจะได้อยู่รอดหลังยุคน้ำมัน

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา องค์กรวิจัยแห่งชาติที่ดูแลด้านการวิจัยของซาอุดิอาระเบีย ที่มีชื่อว่า King Abdulaziz City for Science and Technology ได้ร่วมกับบริษัท IBM เพื่อจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศทางนาโนเทคโนโลยี (Nanotechnology Centre of Excellence) โดยศูนย์นี้จะดำเนินการวิจัยมุ่งเป้าในศาสตร์แนวหน้าของโลก ได้แก่ การพัฒนาเซลล์สุริยะ การเปลี่ยนน้ำทะเลเป็นน้ำจืด และปิโตรเคมียุคนาโน (ประเทศอาหรับมีแผนจะเป็นศูนย์กลางปิโตรเคมีของโลก ดังนั้นในอนาคตอันใกล้ อุตสาหกรรมปิโตรเคมีของไทย ไม่ว่าจะเป็น เครือซีเมนต์ไทย ปตท. ทีพีไอ จะได้รับผลกระทบอย่างหนัก เพราะต้นทุนแพงกว่า) น่าชื่นชมประเทศซาอุฯ ที่การตั้งศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติของเขา ค่อนข้างมีทิศทาง ซึ่งก็เน้นทำที่ 3 เรื่องนี้เท่านั้น ในขณะที่ของเรายังไม่หาจุดเน้นไม่เจอ และก็ยังเป็นความถนัดของคนไทย ที่ชอบทำวิจัยในเรื่องที่ตนเองถนัด มากกว่าประเทศถนัด

(ภาพบน - แม้แต่ประเทศที่ร่ำรวยน้ำมันอย่างซาอุดิอาระเบีย ก็ทุ่มพัฒนาเทคโนโลยีเซลล์สุริยะ เพื่อเป็นพลังงานทางเลือก)