และแล้ว มหาวิทยาลัยรัฐของประเทศไทย ก็ค่อยๆ ทยอยออกนอกระบบราชการมาเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับ ถึงแม้จะมีการต่อต้านบ้าง แต่ก็เป็นธรรมชาติของคนที่ไม่ค่อยอยากจะเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ตนเองไม่รู้ ทั้งๆที่ การเป็นมหาวิทยาลัยอิสระนั้น ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นแต่ในบ้านเรา แต่เป็นกระแสโลกาภิวัฒน์ ที่ประเทศต่างๆ ต้องแข่งขันกัน การออกจากระบบราชการมาเป็นมหาวิทยาลัยอิสระนั้น ก็เป็นกระบวนการหนึ่งในการเพิ่มความสามารถในการแข่งกับทั้งโลก
ในญี่ปุ่นนั้น การนำมหาวิทยาลัยรัฐออกนอกระบบราชการถือเป็น The Must และชาวญี่ปุ่นถือว่าเป็นความร่วมมือร่วมใจ ที่จะนำประเทศออกจากความถดถอยที่เกิดขึ้นกับประเทศมานานถึง 10 ปี ไม่ใช่แค่เพียงมหาวิทยาลัยเท่านั้น หน่วยงานของรัฐอื่นๆ ก็ต้องออกมาจากระบบราชการ มาอยู่ในรูปบรรษัท หรือ องค์กรมหาชน มหาวิทยาลัยจะต้องสร้างจุดต่าง สร้างเอกลักษณ์ของตนเอง และตอบชาวญี่ปุ่นให้ได้ว่า ทำไมเด็กๆถึงต้องเข้ามหาวิทยาลัยนั้น มหาวิทยาลัยนี้ นอกจากนั้น มหาวิทยาลัยแห่งศตวรรษที่ 21 จะต้องเป็นที่พึ่งของชุมชนด้วยการทำให้เศรษฐกิจท้องถิ่น ที่มหาวิทยาลัยนั้นตั้งอยู่มีความเข้มแข็ง มหาวิทยาลัยต้องเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรม ซึ่งอนาคตจะเป็นแหล่งรายได้หลักของมหาวิทยาลัยเอง เพราะอุตสาหกรรมที่แข่งขันได้ในอนาคต จะต้องมี innovation ซึ่งมีแหล่งผลิตอยู่ในมหาวิทยาลัยนี่แหล่ะ
ในเร็ววันนี้ มหาวิทยาลัยมหิดล กำลังจะออกจากระบบราชการ เพื่อมาเป็นมหาวิทยาลัยอิสระ นั้นอาจจะทำให้มหาวิทยาลัยในกำกับอื่นๆ ที่ตั้งก่อนหน้านั้น ไม่ว่า มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เกิดความเกรงกลัวว่า ความได้เปรียบที่เคยมีต่อมหาวิทยาลัยรัฐอื่นๆหมดไป จริงๆ แล้ว สังคมไทยต้องเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ แทนที่จะแข่งกันเอง เราต้องมองว่า เราจะแข่งกับจีน กับเวียดนาม กับ สิงคโปร์ อย่างไร มหาวิทยาลัยไทยยุคใหม่ ต้องผลิตคนให้ได้ระดับอาเซียน และ ระดับโลก พวกเราชาวมหาวิทยาลัย ถึงเวลา Thailand Stand Up กันแล้ว !!!!!
(ภาพขวามือ - มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เป็นมหาวิทยาลัยในกำกับที่ตั้งขึ้นมาเป็นแห่งที่ 3 ของประเทศ เป็นมหาวิทยาลัยที่มีภูมิทัศน์ที่สวยงามติดอันดับโลก แต่แค่นั้นคงไม่พอ หากประเทศไทยต้องการเป็นที่หนึ่งในอาเซียน ก็ต้องพยายามแข่งกับ National University of Singapore ในด้านวิชาการให้ได้)
ในญี่ปุ่นนั้น การนำมหาวิทยาลัยรัฐออกนอกระบบราชการถือเป็น The Must และชาวญี่ปุ่นถือว่าเป็นความร่วมมือร่วมใจ ที่จะนำประเทศออกจากความถดถอยที่เกิดขึ้นกับประเทศมานานถึง 10 ปี ไม่ใช่แค่เพียงมหาวิทยาลัยเท่านั้น หน่วยงานของรัฐอื่นๆ ก็ต้องออกมาจากระบบราชการ มาอยู่ในรูปบรรษัท หรือ องค์กรมหาชน มหาวิทยาลัยจะต้องสร้างจุดต่าง สร้างเอกลักษณ์ของตนเอง และตอบชาวญี่ปุ่นให้ได้ว่า ทำไมเด็กๆถึงต้องเข้ามหาวิทยาลัยนั้น มหาวิทยาลัยนี้ นอกจากนั้น มหาวิทยาลัยแห่งศตวรรษที่ 21 จะต้องเป็นที่พึ่งของชุมชนด้วยการทำให้เศรษฐกิจท้องถิ่น ที่มหาวิทยาลัยนั้นตั้งอยู่มีความเข้มแข็ง มหาวิทยาลัยต้องเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรม ซึ่งอนาคตจะเป็นแหล่งรายได้หลักของมหาวิทยาลัยเอง เพราะอุตสาหกรรมที่แข่งขันได้ในอนาคต จะต้องมี innovation ซึ่งมีแหล่งผลิตอยู่ในมหาวิทยาลัยนี่แหล่ะ
ในเร็ววันนี้ มหาวิทยาลัยมหิดล กำลังจะออกจากระบบราชการ เพื่อมาเป็นมหาวิทยาลัยอิสระ นั้นอาจจะทำให้มหาวิทยาลัยในกำกับอื่นๆ ที่ตั้งก่อนหน้านั้น ไม่ว่า มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เกิดความเกรงกลัวว่า ความได้เปรียบที่เคยมีต่อมหาวิทยาลัยรัฐอื่นๆหมดไป จริงๆ แล้ว สังคมไทยต้องเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ แทนที่จะแข่งกันเอง เราต้องมองว่า เราจะแข่งกับจีน กับเวียดนาม กับ สิงคโปร์ อย่างไร มหาวิทยาลัยไทยยุคใหม่ ต้องผลิตคนให้ได้ระดับอาเซียน และ ระดับโลก พวกเราชาวมหาวิทยาลัย ถึงเวลา Thailand Stand Up กันแล้ว !!!!!
(ภาพขวามือ - มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เป็นมหาวิทยาลัยในกำกับที่ตั้งขึ้นมาเป็นแห่งที่ 3 ของประเทศ เป็นมหาวิทยาลัยที่มีภูมิทัศน์ที่สวยงามติดอันดับโลก แต่แค่นั้นคงไม่พอ หากประเทศไทยต้องการเป็นที่หนึ่งในอาเซียน ก็ต้องพยายามแข่งกับ National University of Singapore ในด้านวิชาการให้ได้)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น