สิ่งทอเป็นอุตสาหกรรมที่โบราณมากๆ ย้อนกลับไปได้ถึงยุคอียิปต์โบราณกว่า 3500 ปีก่อนคริสตกาล ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ชาวอียิปต์ถักทอผ้าลินินกันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน แต่เชื่อไหมว่าอารยธรรมจีนมีความเก่าแก่ในเรื่องนี้กว่าเพื่อน เพราะมีการทอผ้าฝ้ายใช้ตั้งแต่ 4500 ปีก่อนคริสตกาล จากนั้นก็มาคิดค้นการทอผ้าไหมในยุค 2600 ปีก่อนคริสตกาล ในสมัยก่อนเสื้อผ้าเป็นของหายาก โดยเฉพาะเสื้อผ้าคุณภาพดี สังเกตไหมว่าในวันแต่งงานตามประเพณีไทย (พิธีการตอนเช้า) ผู้ใหญ่ทั้งฝ่ายหญิงและชายจะต้องรับไหว้จากเจ้าบ่าว เจ้าสาว โดยมีผ้าดิบเป็นสื่อกลาง ในชนบทของไทยนั้น ผ้าทอก็ยังเป็นของกำนัลที่มักมอบให้แก่กันในงานสำคัญต่างๆ บรรพบุรุษชาวตะวันตกในอดีตขวนขวายหาทางมาซื้อผ้าไหมจากเมืองจีน จนเกิดตำนาน "เส้นทางสายไหม" หรือ Silk Road ซึ่งมีมาก่อนการเดินเรือมาทางตะวันออกเสียอีก
วิวัฒนาการของสิ่งทอนับแต่บรรพกาลจนถึงทุกวันนี้ แม้จะล่วงเลยมาหลายพันปีแล้ว สิ่งทอก็ยังมีฟังก์ชันหน้าที่ธรรมดาๆ ของมันอยู่ คือ ปกป้องผิวหนังจากสภาพแวดล้อมภายนอก โดยความสวยงามและการบ่งบอกฐานะกลายมาเป็นปัจจัยในการกำหนดราคาของมัน แม้เทคโนโลยีเส้นไยได้ถือกำเนิดขึ้นเพื่อมาทดแทนเส้นไยจากธรรมชาติ ในยุคที่เรามีการปฏิวัติปิโตรเคมีในช่วงกลางศตวรรษที่แล้ว แต่ปัจจุบันสิ่งทอก็ยังไม่ฉลาดมากไปกว่าการปกป้องผิวหนังจากสภาพแวดล้อมภายนอก โลกของสิ่งทออยู่ในเวอร์ชัน 1 มานานแล้ว
แต่นาโนเทคโนโลยี และ ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ กำลังจะทำให้สิ่งทอมีความฉลาดขึ้นมาเป็น Textile Version 2.0 ที่ซึ่งสิ่งทอมีความสามารถมากขึ้น เช่น ไม่ยับ ไม่ต้องรีด ไม่เหม็นอับ กันร้อนกันหนาว กันลม กันชื้น กันไฟ ซึ่งเป็นฟังก์ชันง่ายๆ ไปจนถึงคุณสมบัติพิเศษ เช่น ป้องกันอาวุธเชื้อโรค กันกระสุน เปลี่ยนสีตามสภาพแวดล้อม (อำพรางตัวเองได้) ติดตามสถานภาพของสุขภาพ เป็นต้น คุณสมบัติพิเศษอีกอย่างหนึ่งที่ Textile Version 2.0 จะมีก็คือฟังก์ชันด้านอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีการนำเอาเทคโนโลยีเซ็นเซอร์ เทคโนโลยีสื่อสาร วงจรอิเล็กทรอนิกส์ เข้าไปอยู่ในสิ่งทอ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ NECTEC น่าทำมากๆ เพราะเกี่ยวข้องกับอิเล็กทรอนิกส์ นักวิจัยที่ MIT ได้สาธิตการนำเอาเส้นใยนำไฟฟ้ามาถักโดยมีการออกแบบการไขว้ของเส้นด้าย ทำให้สามารถออกแบบเป็นคีย์บอร์ดที่สามารถรับรู้น้ำหนักการกด และให้สัญญาณไฟฟ้าออกมาแตกต่างกันได้ (คีย์บอร์ดของคอมพิวเตอร์ธรรมดาไม่รับรู้ความต่างของน้ำหนักการกด)
(ภาพด้านบนสุด - ชุดประจำชาติของอียิปต์ แม้จะเป็นที่ฮิตใส่กันเมื่อ 5500 ปีที่แล้ว ก็ยังเป็นอะไรที่มองแล้วสบายตาในปัจจุบัน)
วิวัฒนาการของสิ่งทอนับแต่บรรพกาลจนถึงทุกวันนี้ แม้จะล่วงเลยมาหลายพันปีแล้ว สิ่งทอก็ยังมีฟังก์ชันหน้าที่ธรรมดาๆ ของมันอยู่ คือ ปกป้องผิวหนังจากสภาพแวดล้อมภายนอก โดยความสวยงามและการบ่งบอกฐานะกลายมาเป็นปัจจัยในการกำหนดราคาของมัน แม้เทคโนโลยีเส้นไยได้ถือกำเนิดขึ้นเพื่อมาทดแทนเส้นไยจากธรรมชาติ ในยุคที่เรามีการปฏิวัติปิโตรเคมีในช่วงกลางศตวรรษที่แล้ว แต่ปัจจุบันสิ่งทอก็ยังไม่ฉลาดมากไปกว่าการปกป้องผิวหนังจากสภาพแวดล้อมภายนอก โลกของสิ่งทออยู่ในเวอร์ชัน 1 มานานแล้ว
แต่นาโนเทคโนโลยี และ ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ กำลังจะทำให้สิ่งทอมีความฉลาดขึ้นมาเป็น Textile Version 2.0 ที่ซึ่งสิ่งทอมีความสามารถมากขึ้น เช่น ไม่ยับ ไม่ต้องรีด ไม่เหม็นอับ กันร้อนกันหนาว กันลม กันชื้น กันไฟ ซึ่งเป็นฟังก์ชันง่ายๆ ไปจนถึงคุณสมบัติพิเศษ เช่น ป้องกันอาวุธเชื้อโรค กันกระสุน เปลี่ยนสีตามสภาพแวดล้อม (อำพรางตัวเองได้) ติดตามสถานภาพของสุขภาพ เป็นต้น คุณสมบัติพิเศษอีกอย่างหนึ่งที่ Textile Version 2.0 จะมีก็คือฟังก์ชันด้านอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีการนำเอาเทคโนโลยีเซ็นเซอร์ เทคโนโลยีสื่อสาร วงจรอิเล็กทรอนิกส์ เข้าไปอยู่ในสิ่งทอ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ NECTEC น่าทำมากๆ เพราะเกี่ยวข้องกับอิเล็กทรอนิกส์ นักวิจัยที่ MIT ได้สาธิตการนำเอาเส้นใยนำไฟฟ้ามาถักโดยมีการออกแบบการไขว้ของเส้นด้าย ทำให้สามารถออกแบบเป็นคีย์บอร์ดที่สามารถรับรู้น้ำหนักการกด และให้สัญญาณไฟฟ้าออกมาแตกต่างกันได้ (คีย์บอร์ดของคอมพิวเตอร์ธรรมดาไม่รับรู้ความต่างของน้ำหนักการกด)
(ภาพด้านบนสุด - ชุดประจำชาติของอียิปต์ แม้จะเป็นที่ฮิตใส่กันเมื่อ 5500 ปีที่แล้ว ก็ยังเป็นอะไรที่มองแล้วสบายตาในปัจจุบัน)
(ภาพซ้ายมือ - บริษัท Infineon แห่งเยอรมันได้นำเครื่อง MP3 ควบคุมด้วยเสียงพูด ที่สามารถซักiรีดได้ มาสาธิตในญี่ปุ่น ในภาพ Pretty กำลังแสดงการกดปุ่มเปิด-ปิด)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น