24 ตุลาคม 2552

อังกฤษทุ่ม 3.3 พันล้านเหรียญ วิจัยเกษตร-อาหาร


หายไปหลายวันครับ ผมเดินทางมาภาคเหนือครับ มาอยู่ที่ อ.ปาย แม่ฮ่องสอน พักอยู่กลางท้องนาเลยครับ ใกล้ชิดธรรมชาติมาก ตื่นเช้าขึ้นมาก็เห็นเขาผันน้ำจากลำน้ำปาย มาตามรางส่งน้ำเข้านา ท้องนาที่นี่ความสูงไม่เท่ากัน เขาจะทำแบบขั้นบันได ซึ่งทำให้การใช้น้ำมีประสิทธิภาพมาก พอน้ำเต็มระดับบนแล้ว น้ำจะค่อยๆ ไหลลงมาท่วมระดับที่อยู่ต่ำกว่า เท่าๆ ที่ผมเดินดู ผมรู้สึกว่าต้นข้าวที่เขาปลูกกันที่นี่ ผลผลิตไม่ค่อยสูง ต้นหนึ่งๆ มีเมล็ดข้าวไม่มาก ไม่เหมือนกับที่ผมเคยไปเห็นที่ญี่ปุ่น ต้นหนึ่งๆ จะมีแต่เมล็ดข้าว มากจนต้นเกือบจะล้ม ดังนั้นที่ผมเคยได้ยินว่า ประเทศเราปลูกข้าวเปลืองที่ดินมาก เพราะผลผลิตต่อไร่ต่ำเกือบที่สุดในโลก ก็น่าจะจริง ......


ผมเคยเขียนบ่อยๆ ว่า ประเทศไทยที่พวกเราภาคภูมิใจนักหนาว่า เก่งทางด้านเกษตรกรรม เป็นครัวของโลก อีกหน่อยอาจจะไม่มีที่ยืนในเรื่องเกษตรก็ได้นะครับ เพราะเริ่มมีประเทศที่อยากจะทำเกษตรเป็นครัวโลกแทนเรา มากขึ้นเรื่อยๆ แล้วครับ ประเทศอาหรับที่รวยน้ำมันก็เริ่มทุ่มงบเพื่อพัฒนาการเกษตรในทะเลทราย ประเทศยุโรปเริ่มมีแนวคิดในการปลูกเนื้อสัตว์ (in vitro meat) เพื่อทดแทนการทำปศุสัตว์


ล่าสุด ทีมศึกษาสถานภาพและแนวโน้มด้านเกษตรและอาหาร ของสหราชอาณาจักร ได้ออกมาสรุปผลการศึกษา และเสนอให้รัฐบาลทุ่มงบวิจัยด้านเกษตรและอาหารปีละ 200 ล้านปอนด์ ตลอดช่วงระยะ 10 ปีต่อไปนี้ เพื่อที่จะทำให้โลกมีอาหารเพียงพอที่เลี้ยงประชากรโลกที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 9 พันล้านคนในอีก 40 ปีข้างหน้า ซึ่งรายงานนี้เสนอทุกวิถีทางที่จะทำให้เกิดความมั่นคงด้านอาหาร เช่น การพัฒนาพืชที่ทนต่ออากาศร้อน พืชที่ทนต่อพิษของโลหะ ข้าวที่ทนน้ำท่วม ซูเปอร์พืชที่ผลผลิตสูง รวมทั้งการกลับมาวิจัยและพัฒนาพืช GMO ด้วย

(ภาพบน - ภาพแสดงข้าวโตเร็ว เปรียบเทียบการเติบโตภายใน 5 วัน)