ในคราที่เจ้าชายสิทธัตถะได้ทรงรถม้าหนีพระราชบิดา ออกประพาสนอกพระราชวังนั้น ได้ทอดพระเนตรเห็นเทวทูตทั้ง 4 อันได้แก่ คนแก่ คนเจ็บ คนตาย และ นักบวช ซึ่งเหล่าเทพยดาได้เชิญชวนกันมานิรมิต ให้ทอดพระเนตรตลอดเส้นทางพระดำเนิน ทำให้พระองค์ทรงเกิดมีความทุกข์ในพระหฤทัย และเกิดความเบื่อหน่ายในกามสุข อยากจะเสด็จออกพนวชเพื่อค้นหาความจริงของชีวิต ซึ่งต่อมาพระองค์ได้บรรลุสัมโพธิญาณ ตรัสรู้เป็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ในจำนวนเทวทูตทั้ง 4 ที่ได้ออกมาแสดงตนแก่พระสิทธัตถะจนเป็นเหตุให้พระองค์ออกผนวชนั้น "คนแก่" ถือเป็นมูลเหตุที่น่าจะสำคัญที่สุด เพราะได้ทำให้พระองค์สลดพระทัย ครุ่นคิดถึงตัวพระองค์เองว่าอีกไม่ช้าไม่นาน พระองค์จะต้องประสบกับภาวะดังกล่าวด้วยพระองค์เอง และแล้วในราตรีหนึ่ง พระสิทธัตถะได้ทรงตื่นบรรทม รับสั่งนายฉันนะ อำมาตย์ ให้นำม้ากัณฐกะออกไปส่งพระองค์ ณ ริมฝั่งแม่น้ำอโนมานที หลังจากทรงข้ามแม่น้ำพ้นเขตกรุงกบิลพัสดุ์แล้ว พระองค์ทรงปลงพระโมลี อธิษฐานจิตขอถือเพศบรรพชิตนับแต่นั้น
เราเชื่อตลอดมาว่า ความแก่ เป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แต่วิทยาศาสตร์สมัยใหม่กำลังหาทางที่จะหยุดยั้งเจ้าสิ่งนี้ มีนักวิทยาศาสตร์จำนวนมากขึ้นมากขึ้นทุกที ที่เชื่อว่าอีกหน่อยมนุษย์จะอยู่ได้เกิน 100 ปี และตามทฤษฎีแล้ว เราน่าจะยืดอายุของคนเราให้อยู่ได้เป็น 1,000 ปีเสียด้วยซ้ำ ไมเคิล โรส (Michael Rose) ศาสตราจารย์ทางด้านชีววิทยาวิวัฒนาการ แห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เออร์วิน (UC Irvine) ผู้สร้างผลงานก้องโลกในการยืดอายุแมลงวัน กล่าวว่า "ผมทำวิจัยด้านอมตะศาสตร์ครับ เมื่อสัก 20 ปีก่อนหน้านี้ ใครก็ตามที่เสนอแนวคิดเรื่องการชะลอการแก่ จะถูกมองเป็นตัวประหลาด หรือไม่ก็หลุดโลกไปเลย แต่ตอนนี้สิครับ มีแต่ใครๆ พูดถึงมันว่าไอเดียนี้เป็นเรื่องที่เป็นไปได้"
รัฐบาลสหรัฐฯ ก็ค่อนข้างให้ความสนใจในเรื่องของชราศาสตร์ และ อมตะศาสตร์ ไม่เช่นนั้นก็คงจะไม่ทุ่มเงินวิจัยลงไป สำหรับเรื่องเหล่านี้ เป็นเงินถึง 2.4 พันล้านเหรียญต่อปี (หรือประมาณ 95,000 ล้านบาทต่อปี) หรอกครับ การวิจัยในเรื่องของชราศาสตร์ เพื่อเป้าหมายในการยืดอายุขัยของมนุษยชาติ ก่อนหน้านี้จะมองไปที่พันธุศาสตร์ หรือ Genetics เป็นหลัก แต่ในปัจจุบันนี้ ศาสตร์นี้อาศัยหลากหลายศาสตร์เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งจะเป็นตัวคูณที่ทำให้เกิดอัตราเร่งในงานวิจัยด้านนี้
ถึงแม้ มนุษย์เกือบทุกคน อยากใช้ชีวิตนานๆ เท่าที่จะนานได้ แต่ใช่ว่าทุกคนจะเห็นด้วยกับการยืดอายุขัยของมนุษย์ นักวิทยาศาสตร์ส่วนหนึ่งไม่อยากให้มีการยืดอายุขัยของคน เพราะเกรงว่าจะทำให้จำนวนประชากรของมนุษย์ล้นโลก และคนเหล่านี้ยังเห็นความจำเป็นที่จะต้องเกิด แก่ เจ็บ ตาย และเชื่อว่ามนุษย์เราถูกกำหนดมาให้แก่และต้องตายทุกคน แต่คนที่เชียร์เรื่องนี้ขาดใจ กลับเห็นว่า เป็นการกลัวที่ไม่เข้าเรื่อง โดยให้เหตุผลว่า การที่ประชากรโลกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก็จะมีกำลังสมองมากขึ้นๆ และจะเป็นตัวเร่งทำให้เกิดความก้าวหน้าในเรื่องอวกาศ มนุษย์สามารถระบายประชากรส่วนหนึ่งไปอยู่ดาวดวงอื่นๆได้