07 กุมภาพันธ์ 2552

Neurotheology - ประสาทเทววิทยา (ตอนที่ 2)


วันนี้มาคุยกันต่อนะครับ วันก่อนผมพอเกริ่นๆไปบ้างแล้วว่า Neurotheology หรือ ประสาทเทววิทยา เป็นศาสตร์ที่มีสมมติฐานว่า ความเชื่อทางศาสนานั้นเกิดจากสมองของเรา โดยความคิดเรื่องพระเจ้า หรือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือ สิ่งเหนือธรรมชาติ นั้นเป็นเรื่องของสมองสร้างขึ้นมา โดยสามารถที่จะอธิบายได้ด้วยหลักของชีววิทยา ประสาทวิทยา และพันธุศาสตร์เชิงโมเลกุล หลักฐานง่ายๆว่าความคิดในเรื่องสิ่งที่อยู่เหนือธรรมชาติอยู่ในยีนของเราก็คือ ไม่มีอารยธรรมใด หรือชนชาติใด เผ่าพันธุ์ใดในโลก ที่ดำรงอยู่ได้โดยไม่มีเรื่องเกี่ยวกับศาสนาหรือจิตวิญญาณ แม้แต่ชนเผ่าเดียว มนุษย์ทุกคนตั้งแต่เกิดมาแล้ว มีวาล์วเปิดรับเรื่องเหล่านี้ได้อย่างไม่ยากเย็นอะไรเลย


ดร. แอนดรู นิวเบิร์ก (Andrew Newberg) อาจารย์สังกัดมหาวิทยาลัยแห่งเพนซิลวาเนีย ในสหรัฐฯ ผู้แต่งหนังสือ "Why We Believe What We Believe" ซึ่งเป็นหนังสือที่อธิบายว่าทำไมคนเราถึงยังงมงายในเรื่องเหนือธรรมชาติต่างๆกันอยู่ อาจารย์ท่านนี้มีประสบการณ์ในการรักษาและศึกษาสมองของคนไข้ที่เป็นโรคที่เกี่ยวกับสมองต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Alzheimer's โรค Parkinson's โรคซึมเศร้า และโรคประสาท เขาพบว่า Frontal Lobe หรือสมองส่วนหน้า ซึ่งอยู่ติดกับกระโหลกหน้าผากนั้น ช่วยทำให้เราสามารถทำสมาธิในการสวดมนต์ หรือทำกรรมฐาน ส่วน Parietal Lobe ซึ่งอยู่ข้างหลังนั้นทำหน้าที่เก็บรวบรวมสัมผัสต่างๆที่เข้ามา มันเกี่ยวข้องในการทำให้เราเกิดความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของ สิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวเราเอง ซึ่งสมองส่วนที่มีชื่อว่า Limbic System ซึ่งซ่อนตัวอยู่ใจกลางสมองนั้น จะทำหน้าที่ควบคุมอารมณ์ และความรู้สึกสุขที่ได้รับจากการปฏิบัติธรรม จากการสแกนสมองทำให้อาจารย์ท่านนี้พบว่า สมองส่วนเดิมๆ จะทำงานเมื่อสวดมนต์หรือทำกรรมฐาน ดร. นิวเบิร์กเสนอว่าการสแกนสมองสามารถใช้เป็นหลักฐานในการสรุปว่า สมองมนุษย์นั้นถูกสร้างขึ้นมาให้มีความเชื่อในเทพเจ้า หรือสิ่งเหนือธรรมชาติ สำหรับคนที่ไม่เชื่อในเรื่องพระเจ้าแล้ว ความรู้สึกต่างๆว่าพระเจ้ามีจริงนั้น เป็นเพียงการทำงานของวงจรต่างๆในสมองของเราเท่านั้นเอง

วันหลังผมจะมาคุยเรื่องนี้ต่อนะครับ .......