30 ตุลาคม 2551

The Post-American World - โลกยุคใหม่ที่ไม่คลั่งไคล้อเมริกา (ตอน 2)


หน้าที่ผมในบล็อกนี้คือนำแนวโน้ม และ กระบวนทัศน์ใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นมาสู่ท่านผู้อ่าน และ สิ่งที่ผมคิดว่ากำลังจะเกิดขึ้นในวันนี้ คือ การล่มสลายของลัทธิอเมริกันนิยมครับ แม้แต่ในวงการวิทยาศาสตร์เอง อเมริกากำลังจะเสียความเป็นเบอร์หนึ่งไปแล้วครับ รางวัลโนเบลในปีนี้แทบจะไม่มีคนอเมริกันเข้ารับรางวัลเลย ถึงเวลาที่กระบวนยุทธ์ของไทยต้องเลิกตามก้นอเมริกาแล้วครับ เราต้องหาพันธมิตรอื่นที่มีศักยภาพจะมาแทนที่อเมริกาเช่น ยุโรป จีน เกาหลี



เมื่อตอนผมเป็นเด็ก จำได้ว่าผมเคยคลั่งไคล้ประเทศสหรัฐอเมริกาเอามากๆ ตอนเรียนอยู่ประถมศึกษาปีที่ 5 ผมได้เขียนจดหมายถึงท่านเอกอัครราชฑูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย แสดงความชื่นชมในประเทศของท่าน และขอข้อมูลประเทศของท่านมาศึกษา เพราะที่โรงเรียนไม่ค่อยมีให้อ่าน ท่านก็ใจดี ตอบจดหมายกลับและยังส่งแผนที่ฉบับใหญ่แบบโปสเตอร์ของอเมริกามาให้ แถมด้วยหนังสือเกี่ยวกับประเทศนี้อีกกอง ยิ่งทำให้ความฝันและลุ่มหลงประเทศที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้เพิ่มเป็นทวีคูณ

ในยุคนั้น เด็กๆในรุ่นผมล้วนฝันที่จะได้ไปเยี่ยมชม ฝันที่จะได้ไปเรียนต่อที่อเมริกา ผมได้ไปอเมริกาครั้งแรกหลังจากจบปริญญาเอกที่ยุโรป รู้สึกตื่นตาตื่นใจมาก แต่ในช่วงที่ผมเดินทางไปอเมริกานั้น กลับเป็นช่วงไม่กี่เดือนก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ 9/11 ซึ่งเวลา ณ จุดนั้น อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการเสื่อมถอยของประเทศนี้ ประเทศที่ผมเคยรักและเคยชื่นชมเมื่อครั้งยังเด็ก

ม.จ.สิทธิพร กฤษดากร บิดาของวงการเกษตรแผนใหม่ เคยกล่าวไว้ว่า "เงินทองคือมายา ข้าวปลาเป็นของจริง" ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นแม่แบบของระบบทุนนิยมก้าวหน้า มีนวัตกรรมทางการเงินมากมาย ที่ช่วยให้ประเทศนี้สร้างความมั่งคั่งจากมายาทางการเงิน อเมริกามีวิธีการเงินต่อเงินที่เรียกว่าอนุพันธ์ (Derivatives) ทำให้เกิด Layer ของเงินหลายๆชั้นเหนือการผลิตที่เป็นของจริง แต่ด้วยความโลภของระบบทุนนิยมแบบสหรัฐอเมริกา ภายในวันเดียวมูลค่าของตลาดหุ้น Wall Street หายไป 35,000,000,000,000 บาท ครับ เทียบเท่ากับงบประมาณรัฐบาลไทย 20 ปี ระบบการเงินที่เป็นมายาตอนนี้กำลังจะถูกปฏิรูปแล้วครับ ทุนนิยมแบบสหรัฐอเมริกาที่อิงอยู่กับอิสรภาพทางการเงิน และ ตลาดเสรี จะถูกแทนที่ด้วยทุนนิยมแบบสร้างสรรค์ (Creative Capitalism) มีจริยธรรม มีระเบียบ มีความเป็นอยู่ที่ดีของสังคมก่อนผลกำไร ซึ่งผมคิดว่าน่าจะเป็นทุนนิยมแบบยุโรป หรือ อาจเป็นเศรษฐกิจพอเพียงแบบไทย (Sufficiency Economy) ที่มีความเป็นสังคมนิยมปะปนนิดๆ พวกเราต้องเตรียมตัวรับเผาจริงในปี 2552 ที่จะถึงนี้นะครับ วิกฤตครั้งนี้ เชื่อกันว่าจะอยู่นานถึงปี ค.ศ. 2013 เลยครับ แต่สำหรับประเทศไทยแล้ว ยังไงๆ เราก็มีข้าวปลาที่เป็นของจริง !!!!!