วันนี้กลับมาคุยถึงเรื่องที่ค้างไว้ในส่วนของ Mobile Pod รถยนต์แห่งอนาคตกันนะครับ ประเด็นที่นักอนาคตศาสตร์ให้ความสนใจในเรื่องอนาคตของรถยนต์ที่คุยกันไปแล้วก็คือ รถยนต์จะเล็กลงๆ จนกลายเป็นของใช้จุ๋มจิ๋ม น่ารัก ราคาถูกลง จนทำให้มันอาจกลายเป็นของที่เปลี่ยนได้บ่อยๆ นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมถึงกับใช้คำว่า Disposable Car คือรถยนต์ใช้แล้วทิ้ง แต่ผมว่ามันคงไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ อาจจะทิ้งยากกว่ามือถือนิด หรือ คอมพิวเตอร์โน้ตบุคนิดนึง
เทรนด์สำคัญอีกเรื่องนึงสำหรับอนาคตของรถยนต์ก็คือ รถยนต์แห่งอนาคตจะเดินเครื่องด้วยไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นการนำเอาไฮโดรเจนมาเผาผลาญใน Fuel Cell หรือการชาร์จไฟเข้าไปในแบตเตอรีของรถยนต์ก็ตามแต่ ซึ่งเป็น 2 แนวทางที่กำลังแข่งขันกัน โดยแนวทางที่สองคือการชาร์จไฟบ้านเข้าไปในแบตเตอรีรถยนต์ไฟฟ้านั้น กำลังเป็นที่นิยมสำหรับผู้ขับขี่ในเมือง โดยรถยนต์ไฟฟ้ามักจะเป็นรถยนต์คันที่ 2 ซึ่งใช้เฉพาะขับขี่ในเมืองซึ่งใช้ความเร็วค่อนข้างต่ำ รถยนต์มีขนาดเล็กประหยัดพลังงาน ในตลาดตอนนี้ผู้ผลิตรถยนต์เริ่มให้ความสนใจกับรถยนต์ประเภทชาร์จไฟกันมากขึ้นแล้วล่ะครับ ทำเล่นไปนะครับ รถยนต์แบบ Fuel Cell อาจไม่เกิดขึ้นก็ได้ หากรถยนต์ชาร์จไฟที่เรียกกันติดปากว่า EV (Electric Vehicle) ได้รับความนิยมขึ้นมา โดยส่วนตัวของผมคิดว่าประเทศไทยอย่าไปทำเลย Fuel Cell เจ๊งแน่ๆครับ เพราะกระแสมันโหนมาทาง EV มากกว่านะตอนนี้ ประเทศจีนซึ่งถูกกล่าวหาว่าผลิตสินค้าโดยใช้พลังงานไม่สะอาดอย่างถ่านหิน เขากลับเป็นประเทศที่นำหน้าที่สุดในเรื่องของความกระตือรือล้นในการผลิตรถยนต์ EV ของโลกแล้วครับตอนนี้ ตัวอย่างรถ EV รุ่นหนึ่งที่จีนเขาผลิตไปขายในอเมริกา มันเป็นรถที่ดูภายนอกไม่เหมือนรถชาร์จไฟเลยครับ รถรุ่นนี้ทำความเร็วได้ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง วิ่งได้ไกลถึง 250 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้ง
วันหลังผมจะมาคุยให้ฟังต่อนะครับว่า จะเกิดอะไรขึ้นกับเทคโนโลยีรถยนต์โลก ประเทศไทยซึ่งเป็นฐานการผลิตทั้งรถยนต์ ฮาร์ดดิสก์ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆเนี่ย ถ้าไม่ใส่ใจกับพลวัตของเทคโนโลยีเกิดใหม่ (Emerging Technologies) กับพวกเทคโนโลยีก่อกำเนิด (Enabling Technologies) กันบ้าง คำว่าฮับนู่น ฮับนี่ คงไม่ใช่ของที่ยั่งยืนนะครับ ........
เทรนด์สำคัญอีกเรื่องนึงสำหรับอนาคตของรถยนต์ก็คือ รถยนต์แห่งอนาคตจะเดินเครื่องด้วยไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นการนำเอาไฮโดรเจนมาเผาผลาญใน Fuel Cell หรือการชาร์จไฟเข้าไปในแบตเตอรีของรถยนต์ก็ตามแต่ ซึ่งเป็น 2 แนวทางที่กำลังแข่งขันกัน โดยแนวทางที่สองคือการชาร์จไฟบ้านเข้าไปในแบตเตอรีรถยนต์ไฟฟ้านั้น กำลังเป็นที่นิยมสำหรับผู้ขับขี่ในเมือง โดยรถยนต์ไฟฟ้ามักจะเป็นรถยนต์คันที่ 2 ซึ่งใช้เฉพาะขับขี่ในเมืองซึ่งใช้ความเร็วค่อนข้างต่ำ รถยนต์มีขนาดเล็กประหยัดพลังงาน ในตลาดตอนนี้ผู้ผลิตรถยนต์เริ่มให้ความสนใจกับรถยนต์ประเภทชาร์จไฟกันมากขึ้นแล้วล่ะครับ ทำเล่นไปนะครับ รถยนต์แบบ Fuel Cell อาจไม่เกิดขึ้นก็ได้ หากรถยนต์ชาร์จไฟที่เรียกกันติดปากว่า EV (Electric Vehicle) ได้รับความนิยมขึ้นมา โดยส่วนตัวของผมคิดว่าประเทศไทยอย่าไปทำเลย Fuel Cell เจ๊งแน่ๆครับ เพราะกระแสมันโหนมาทาง EV มากกว่านะตอนนี้ ประเทศจีนซึ่งถูกกล่าวหาว่าผลิตสินค้าโดยใช้พลังงานไม่สะอาดอย่างถ่านหิน เขากลับเป็นประเทศที่นำหน้าที่สุดในเรื่องของความกระตือรือล้นในการผลิตรถยนต์ EV ของโลกแล้วครับตอนนี้ ตัวอย่างรถ EV รุ่นหนึ่งที่จีนเขาผลิตไปขายในอเมริกา มันเป็นรถที่ดูภายนอกไม่เหมือนรถชาร์จไฟเลยครับ รถรุ่นนี้ทำความเร็วได้ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง วิ่งได้ไกลถึง 250 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้ง
วันหลังผมจะมาคุยให้ฟังต่อนะครับว่า จะเกิดอะไรขึ้นกับเทคโนโลยีรถยนต์โลก ประเทศไทยซึ่งเป็นฐานการผลิตทั้งรถยนต์ ฮาร์ดดิสก์ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆเนี่ย ถ้าไม่ใส่ใจกับพลวัตของเทคโนโลยีเกิดใหม่ (Emerging Technologies) กับพวกเทคโนโลยีก่อกำเนิด (Enabling Technologies) กันบ้าง คำว่าฮับนู่น ฮับนี่ คงไม่ใช่ของที่ยั่งยืนนะครับ ........