19 เมษายน 2553

เพนทากอนหวังใช้วิทยาศาสตร์พื้นฐาน สร้างการทหารให้ไร้เทียมทาน



ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ประเทศสหรัฐอเมริกาได้เรียนรู้ว่า กำลังรบแบบเก่าๆ ที่เรียกว่า Traditional Warfare นั้น ไม่อาจจะเป็นที่พึ่งพาในอนาคตได้ อเมริกาได้เรียนรู้ว่า การแบ่งกำลังทหารบกออกเป็น ทหารม้า ทหารราบ ทหารต่อสู้อากาศยาน ทหารปืนใหญ่ ทหารช่าง เป็นโมเดลที่โบราณ ใช้ได้ก็แต่ในสมัยสงครามเวียดนามเท่านั้น ไม่อาจจะต่อกรกับสงครามรูปแบบใหม่ของศตวรรษที่ 21 ได้ และที่สำคัญ กองทัพสหรัฐฯ ได้รับบทเรียนจากสงครามในอิรัก และอัฟกานิสถานว่า กำลังรบรูปแบบนี้ไม่อาจจะรบได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากสงครามเกิดขึ้นในเมือง


ดังนั้น เพนทากอนจึงเริ่มวางยุทธศาสตร์ใหม่ เพื่อปรับปรุงกำลังทหารให้ก้าวหน้าขึ้น โดยอาศัยวิทยาศาสตร์ขั้นเทพ โดยคิดจะนำวิทยาศาสตร์พื้นฐานมาปรับปรุงกองทัพ ปรับปรุงระบบอาวุธ ให้เขยิบขึ้นไปในขั้นที่สูงเกินกว่าที่ศัตรูจะคาดคิด ด้วยงบวิจัยของกระทรวงกลาโหมที่มากถึง 12 พันล้านเหรียญสหรัฐ ต่อปี (คิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 400,000 ล้านบาท) เพนทากอนหวังว่าจะนำมาใช้พัฒนาศาสตร์ต่างๆ อย่าง ชีววิทยาสังเคราะห์ (Synthetic Biology) วิทยาการคอมพิวเตอร์ และสังคมศาสตร์ ให้มาเป็นประโยชน์ต่อการทหารได้พนทากอนจะนำเงินจำนวน 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ (33,000 ล้านบาท) มาอุดหนุนวิทยาศาสตร์พื้นฐาน ในมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะงานวิจัยที่ฝันๆ งานที่คนทั่วไปมักคิดว่าคงนำไปใช้ประโยชน์ไม่ได้

ในระยะหลังๆ นี้ เพนทากอนรู้สึกตื่นเต้นกับเรื่องของชีววิทยาสังเคราะห์เป็นพิเศษ นักวางยุทธศาสตร์ในกลาโหมอยากเห็น นักรบสังเคราะห์ที่สร้างขึ้นมาให้มีความสามารถในการรบ ออกไปเสี่ยงชีวิตแทนทหาร ศักยภาพของชีววิทยาสังเคราะห์นี้มีได้ไม่จำกัด เพนทากอนอาจจะสร้างสิ่งมีชีวิตสังเคราะห์ให้มีความหลากหลายหน้าที่ ตั้งแต่ การดมกลิ่นหาวัตถุระเบิด ไปจนถึง เป็นทหารสังเคราะห์ที่ออกไปรบแทนมนุษย์ได้ นอกจากนี้ เพนทากอนยังเริ่มให้ความสนใจที่จะบูรณาการสังคมศาสตร์เข้ามาช่วยในการวางแผนการรบ นักวิเคราะห์ยุทธวิธี ต้องการโมเดลทางด้านสังคม วัฒนธรรม ประเพณี ของแต่ละท้องถิ่น มาประสานกับแผนการจัดกำลังรบ เพื่อให้ได้ยุทธศาสตร์ที่จะนำไปสู่ชัยชนะในสนามรบที่จำลองในคอมพิวเตอร์ และในสนามรบจริง

หันกลับมามองเมืองไทยแล้ว .... ก็อยากให้กองทัพไทยของเรา สนใจเรื่องแบบนี้บ้างครับ ....

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น