23 กุมภาพันธ์ 2551

Plastic Electronics กับประเทศไทย - ตอนที่ 2


ปัจจุบันตลาดของอินทรีย์อิเล็กทรอนิกส์ มีจอแสดงผล OLED เป็นผลิตภัณฑ์หลักที่ได้รับความนิยมและเป็นตัวขับเคลื่อนอุตสาหกรรมนี้ ทั้งนี้เพราะจอแสดงผล OLED (Organic Light Emitting Diodes) สามารถนำมาใช้งานกับผลิตภัณฑ์ประเภทต่างๆ ได้มากมายไม่ว่าจะเป็น โทรทัศน์ โทรศัพท์เคลื่อนที่ กล้องถ่ายรูป เป็นต้น อีกทั้งจอแสดงผล OLED มีคุณสมบัติที่มีความยืดหยุ่นได้คือ เมื่อทำจอตกจะไม่แตก นอกจากนี้ยังประหยัดพลังงานอีกด้วย แต่ในอนาคตตั้งแต่ปี พ.ศ.2555 (ค.ศ.2012) เป็นต้นไป ทางประธานสมาคม Organic Electronics Association มีความเห็นว่า ผลิตภัณฑ์ประเภทอื่นๆ จะเข้ามาสู่ตลาดแทนที่จอแสดงผล OLED เช่น ผลิตภัณฑ์ประเภท Logic, Memory และ OLED-lighting


โดยการพยากรณ์มูลค่าตลาดของอุตสาหกรรมพลาสติกอิเล็กทรอนิกส์ในปี พ.ศ.2553 (ค.ศ.2010) พบว่า จะมีมูลค่าตลาดถึง 4.75 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งแนวโน้มการใช้งานเทคโนโลยีพลาสติกอิเล็กทรอนิกส์ในตลาดโลกสำหรับปีดังกล่าว จะมีรายละเอียดดังนี้
  1. OLED Displays and Lightings มีแนวโน้มการใช้งานสูงที่สุดเนื่องจากเป็นผลต่อเนื่องของการเจริญเติบโตของตลาดจอแสดงผล OLED โดยมีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ 57
  2. Non-emissive displays มีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ 12
  3. Sensors คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 11
  4. Logic/ Memory คิดเป็นร้อยละ 8
  5. Photovoltaics คิดเป็นร้อยละ 7
  6. อื่นๆ มีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ 5
ในขณะที่อีก 10 ปีข้างหน้าหรือ ปี พ.ศ.2563 (ค.ศ.2020) บริษัทวิจัย IDTechEx ได้คาดการณ์ว่าแนวโน้มการใช้งานเทคโนโลยีพลาสติกอิเล็กทรอนิกส์จะเริ่มเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งมีความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกันกับประธานสมาคม Organic Electronics Association ที่ว่า Logic/Memory จะเข้ามาแทนที่จอแสดงผล OLED โดยในปีนั้น Logic/Memory จะเข้ามามีสัดส่วนที่สูงที่สุดของตลาดพลาสติกอิเล็กทรอนิกส์ของโลก คิดเป็นร้อยละ 32 หรือมีมูลค่า30 พันล้านเหรียญสหรัฐ รองลงมาเป็น Display คิดเป็นร้อยละ 20 หรือมีมูลค่า 20 พันล้านเหรียญสหรัฐ และผลิตภัณฑ์ประเภท Power มีมูลค่า 15.2 พันล้านเหรียญสหรัฐหรือคิดเป็นร้อยละ 16 ทั้งนี้มูลค่าตลาดทั้งหมดของอุตสาหกรรมพลาสติกอิเล็กทรอนิกส์ในปีนั้นจะมีมูลค่าถึง 96 พันล้านเหรียญสหรัฐ

(ภาพด้านบน - แบตเตอรีพลาสติกยืดหยุ่นได้ ผลงานของนักวิทยาศาสตร์ญี่ปุ่น)