วันก่อนผมนำ DVD ภาพยนตร์เรื่อง The Matrix Reloaded กลับมาเปิดดูอีกครั้ง ก็ยังรู้สึกสนุกตื่นเต้นเหมือนเดิมครับ วันนี้เลยต้องกลับมาคุยเรื่องนี้ต่อครับเพราะค้างเอาไว้ ทั้งๆที่ยังมีเรื่องที่จะต้องคุยอีกเยอะ เกี่ยวกับประเด็นที่ว่า "พวกเรามีจริงหรือไม่?" หรือ "พวกเราเป็นแค่เกมส์ที่ใครกำลังเล่นอยู่หรือไม่?"
ในตอนก่อนๆ ผมได้พูดถึงความเป็นไปได้ในเรื่องที่ว่า เราอาจกำลังใช้ชีวิตอยู่ในการจำลองคอมพิวเตอร์ (Computer Simulation) ก็ได้ ในภาพยนตร์เรื่อง The Matrix นั้น การจะพิสูจน์เรื่องนี้ เราก็ต้องทานยาที่มอร์เฟียสเสนอให้ ถึงจะตื่นจากโลกจำลองมาอยู่ในโลกจริง ปัญหาก็คือ หากชีวิตของพวกเราอยู่ในคอมพิวเตอร์จริงๆละก็ เราก็ไม่มีของจริงให้ร่างสิงอยู่หลังจากตื่นขึ้นมาจากโลกจำลองเสียด้วยซ้ำ นั่นก็เพราะ พวกเราทั้งหมด โลกทั้งหมด นั้นไม่มีอยู่จริง
ทีนี้ เราจะทำตัวอย่างไรดี ถ้าหากตอนนี้เรากำลังใช้ชีวิตอยู่ในโลกจำลอง หลายๆ คนอาจจะบอกว่า "ไม่เห็นจะสำคัญอะไรเลย หากเราอยู่ในโลกจำลอง แล้วจะไปแคร์ทำไมว่าจะต้องทำตัวอย่างไร ก็ในเมื่อมันไม่มีตัวตนจริงๆ แล้วนี่ ......"
David J. Chalmers ศาสตราจารย์ทางด้านฟิสิกส์ปรัชญา มหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย กล่าวว่า "ถึงแม้โลกนี้จะไม่มีอยู่จริง และสิ่งรอบๆตัวเราเป็นการจำลองขึ้นมา คนเราก็ยังรู้สึกอยากใช้ชีวิตกับมันอยู่ดีแหล่ะครับ เพราะสิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าพวกเราก็จะเสมือนจริง แถมพวกเรายังอยากทำตัวดีๆ เผื่อว่าชีวิตหลังความตายของเรา ซึ่งก็อาจจะจำลองในคอมพิวเตอร์อีกนั่นแหล่ะ จะเป็นชีวิตที่ดีขึ้น เพราะคนที่ออกแบบระบบจำลองนี้ขึ้นมา คงจะให้รางวัลแก่เรา หากเราประพฤติตัวดี"
Robin Hanson ศาสตราจารย์ทางด้านเศรษฐศาสตร์ ณ มหาวิทยาลัย จอร์จ เมสัน ได้ตีพิมพ์ผลงานเรื่อง "How to live in a simulation" ไว้ในวารสารวิจัยชื่อ Journal of Evolution and Technology ซึ่งเสนอแนวทางในการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในโลกจำลอง ใจความหลักก็คือ พวกเราควรจะทำตัวเองให้น่าสนใจเข้าไว้ เพื่อที่ผู้ที่จำลองเรา เขาจะได้สนใจเรา เราควรใช้ชีวิตอย่างสนุกสนาน พยายามทำให้คนรอบข้างมีความสุข ทำให้คนเหล่านั้นสนใจคุณ ซึ่งจะทำให้ผู้ที่จำลองเราอยู่ อยากเก็บเราไว้ในการจำลองครั้งต่อไป
จริงๆ แล้วยังมีคำถามอีกมากมายครับ เช่น "ผู้ที่จำลองอยู่ชอบและสนใจเรื่องอะไร เราจะประพฤติตนอย่างไรให้ถูกใจท่าน ?" หรือ "เป็นไปได้ไหมที่ผู้ที่จำลองเราอยู่ ก็กำลังถูกจำลองในคอมพิวเตอร์อีกที โดยคนที่อยู่เหนือกว่า ?" ซึ่งจริงๆ ก็อาจจะมีอีกชั้นสูงขึ้นไปอีก จนกว่าเราจะพบชั้นบนสุดที่เป็นของจริง ไม่ใช่การจำลองขึ้นมาในคอมพิวเตอร์ เป็นโลกจริง ชีวิตจริง
ในสมัยพุทธกาล พระพุทธองค์ทรงประทับอยู่ ณ ป่าไม้ประดู่ลาย เขตเมืองโกสัมพี ครั้งนั้น พระพุทธองค์ทรงใช้ฝ่าพระหัตถ์ถือเอาใบประดู่ลาย แล้วทรงตรัสถามพระภิกษุทั้งหลายว่า ใบประดู่ลายในฝ่าพระหัตถ์กับที่อยู่บนต้น อย่างไหนมีมากกว่ากัน พระภิกษุทั้งหลายจึงกราบทูลว่า ใบประดู่ลายที่อยู่บนต้นนั้นมีมากกว่า พระพุทธองค์จึงทรงตรัสอธิบายว่า ธรรมที่พระพุทธองค์ทรงหยั่งทราบด้วยพระปัญญาอันยิ่งนั้น มีมากกว่าธรรมที่พระองค์ทรงประกาศ เปรียบดังใบประดู่ลายที่อยู่บนต้นนั้น มีมากกว่าในฝ่าพระหัตถ์ แล้วพระพุทธองค์ทรงแสดงเหตุผลว่า เพราะเหตุใดจึงไม่ทรงแสดงธรรมทั้งหลายเหล่านั้น ซึ่งเปรียบดังใบประดู่ลายบนต้น นั่นก็เพราะธรรมเหล่านั้น ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์ ไม่เป็นไปเพื่อความเบื่อหน่าย ความคลายกำหนัด ความดับทุกข์ ความสงบ ระงับ ความรู้ยิ่ง การตรัสรู้ และพระนิพพาน
นี่อาจเป็นเหตุผลที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ทรงบอกพวกเราว่า พวกเราทั้งหมดกำลังอาศัยใน Computer Simulation เพราะถึงพระองค์จะบอกเรา พวกเราก็คงไม่เข้าใจ ..... หรือว่า พระผู้เป็นเจ้าในศาสนาต่างๆ นั้น ก็คือคนที่กำลังเล่นและจำลองเกมส์ชีวิตของพวกเราอยู่นั้นเอง ........