วันนี้มาเล่าต่อนะครับถึงยอดเทคโนโลยีที่วารสาร Nature ขึ้นลิสต์ไว้ว่าจะเป็นที่กล่าวขานถึง หรือ มีผลกระทบสูงในอีก 10 ปีข้างหน้า .......
Haptics หรือ กายสัมผัสกับอุปกรณ์ เป็นวิธีการในการสื่อสารกับอุปกรณ์หรือจักรกลโดยอาศัยสัมผัสทางกายของเราไงล่ะครับ มนุษย์เรานั้นมีความคุ้นเคยกับสัมผัสทางกายเอามากๆ และเราก็ชอบใช้สัมผัสทางกายเพื่อสื่อสารถ่ายทอดความรู้สึก ผู้ใหญ่กอดเด็กหอมแก้มเด็กเพื่อแสดงความรัก เพื่อนกอดคอกันเดินเพื่อสื่อความจริงใจ เราใช้การบีบจับมือของอีกฝ่ายเพื่อปลอบประโลมคนที่กำลังเสียใจ แม้กับสัตว์เอง สัมผัสทางกายก็ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม แมวจะมีความสุขสุดยอดถ้าเจ้าของเกาคอให้มัน สุนัขชอบให้ลูบหัวลูบหลัง Haptics เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่จะนำโลกแห่งกายสัมผัสของสิ่งมีชีวิต ให้เข้าไปในโลกของจักรกลที่ไม่มีชีวิตจิตใจ เพื่อให้จักรกลที่มนุษย์สร้าง รับรู้ถึงความต้องการของเรา ด้วยการถ่ายทอดออกผ่านกายสัมผัสนั่นเอง ซึ่งอุปกรณ์ก็จะตอบสนองต่อเราในรูปแบบที่สัมผัสได้ เหมือนแมวหรือสุนัขที่สนองตอบการสัมผัสลูบไล้ของเจ้าของ อุปกรณ์ในอนาคตจะคุยกับเรา สื่อสารกับเราผ่านกายสัมผัสได้ Haptics จึงถูกจัดให้เป็นยอดเทคโนโลยีที่จะเข้ามาอยู่ในทุกซอกทุกมุมของชีวิตเราในอนาคต
จริงๆ แล้ว ตอนนี้ Haptics ก็เริ่มเข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันของเราแล้ว ตัวอย่างง่ายๆ ก็คือพวก Touch Phone ทั้งหลาย ได้แก่ i-Phone และ HTC Touch ตอนนี้ก็มี Samsung รุ่น Haptic ที่ใช้กายสัมผัสเพื่อบอกโทรศัพท์ให้ทำตามสั่ง เราเอามือถูโทรศัพท์เพื่อเลื่อนหน้าจอ ย้าย icon ต่างๆ เขย่ามันเบาๆ เพื่อบอกให้ตื่น เมื่อเรากดปุ่มมันที่จอ ก็จะตอบสนองต่อการกดกลับมาที่นิ้ว เสมือนมีปุ่มอยู่ตรงนั้นจริงๆ แพทย์ใช้เทคโนโลยี Haptic เพื่อทำการผ่าตัดคนไข้ด้วยแขนกล โดยไม่ต้องทำการเปิดแผลเป็นวงกว้างเหมือนแต่ก่อน เพราะแขนกลที่ประกอบด้วยไฟเบอร์เล็กๆ สามารถสอดใส่และเดินทางไปยังจุดผ่าตัด สามารถทำการควบคุมบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ได้ เกมส์รุ่นใหม่ของนินเทนโด สามารถใช้รีโมตเล่นเป็นไม้เทนนิส เพื่อตีลูกบอลที่อยู่ในเกมได้ เสมือนเล่นได้จริง ในอนาคต หุ่นยนต์จะมีผิวหนังเทียม (Electronic Skin) เพื่อรับรู้แรงกด สัมผัสร้อนหนาว ได้เหมือนสิ่งมีชีวิต
Haptics หรือ กายสัมผัสกับอุปกรณ์ เป็นวิธีการในการสื่อสารกับอุปกรณ์หรือจักรกลโดยอาศัยสัมผัสทางกายของเราไงล่ะครับ มนุษย์เรานั้นมีความคุ้นเคยกับสัมผัสทางกายเอามากๆ และเราก็ชอบใช้สัมผัสทางกายเพื่อสื่อสารถ่ายทอดความรู้สึก ผู้ใหญ่กอดเด็กหอมแก้มเด็กเพื่อแสดงความรัก เพื่อนกอดคอกันเดินเพื่อสื่อความจริงใจ เราใช้การบีบจับมือของอีกฝ่ายเพื่อปลอบประโลมคนที่กำลังเสียใจ แม้กับสัตว์เอง สัมผัสทางกายก็ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม แมวจะมีความสุขสุดยอดถ้าเจ้าของเกาคอให้มัน สุนัขชอบให้ลูบหัวลูบหลัง Haptics เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่จะนำโลกแห่งกายสัมผัสของสิ่งมีชีวิต ให้เข้าไปในโลกของจักรกลที่ไม่มีชีวิตจิตใจ เพื่อให้จักรกลที่มนุษย์สร้าง รับรู้ถึงความต้องการของเรา ด้วยการถ่ายทอดออกผ่านกายสัมผัสนั่นเอง ซึ่งอุปกรณ์ก็จะตอบสนองต่อเราในรูปแบบที่สัมผัสได้ เหมือนแมวหรือสุนัขที่สนองตอบการสัมผัสลูบไล้ของเจ้าของ อุปกรณ์ในอนาคตจะคุยกับเรา สื่อสารกับเราผ่านกายสัมผัสได้ Haptics จึงถูกจัดให้เป็นยอดเทคโนโลยีที่จะเข้ามาอยู่ในทุกซอกทุกมุมของชีวิตเราในอนาคต
จริงๆ แล้ว ตอนนี้ Haptics ก็เริ่มเข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันของเราแล้ว ตัวอย่างง่ายๆ ก็คือพวก Touch Phone ทั้งหลาย ได้แก่ i-Phone และ HTC Touch ตอนนี้ก็มี Samsung รุ่น Haptic ที่ใช้กายสัมผัสเพื่อบอกโทรศัพท์ให้ทำตามสั่ง เราเอามือถูโทรศัพท์เพื่อเลื่อนหน้าจอ ย้าย icon ต่างๆ เขย่ามันเบาๆ เพื่อบอกให้ตื่น เมื่อเรากดปุ่มมันที่จอ ก็จะตอบสนองต่อการกดกลับมาที่นิ้ว เสมือนมีปุ่มอยู่ตรงนั้นจริงๆ แพทย์ใช้เทคโนโลยี Haptic เพื่อทำการผ่าตัดคนไข้ด้วยแขนกล โดยไม่ต้องทำการเปิดแผลเป็นวงกว้างเหมือนแต่ก่อน เพราะแขนกลที่ประกอบด้วยไฟเบอร์เล็กๆ สามารถสอดใส่และเดินทางไปยังจุดผ่าตัด สามารถทำการควบคุมบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ได้ เกมส์รุ่นใหม่ของนินเทนโด สามารถใช้รีโมตเล่นเป็นไม้เทนนิส เพื่อตีลูกบอลที่อยู่ในเกมได้ เสมือนเล่นได้จริง ในอนาคต หุ่นยนต์จะมีผิวหนังเทียม (Electronic Skin) เพื่อรับรู้แรงกด สัมผัสร้อนหนาว ได้เหมือนสิ่งมีชีวิต
(รูปบน: น้องๆ Pretty กำลังสาธิตโทรศัพท์แบบ Haptic ของ Samsung)
(รูปล่าง: Electronic Skin พัฒนาโดยนักวิจัยญี่ปุ่น)