28 กรกฎาคม 2551

ยุคแห่งการแต่งงานข้ามศาสตร์ วิทย์ + มนุษย์ + สังคม มาถึงแล้ว


ตลอด 200 ปีที่ผ่านมา วิทยาศาสตร์ มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ เรียนรู้แยกจากกัน ยิ่งเรียนสูงก็ยิ่งลึกลงไปในสาขาของตน แต่เมื่อต้นศตวรรษที่ 21 นี้เอง ที่เกิดมีมหกรรมการแต่งงานข้ามศาสตร์กันขนานใหญ่ ภายในส่วนของวิทยาศาสตร์เอง เกิดศาสตร์ใหม่ๆ ขึ้นมามากมาย เช่น Bioinformatics เกิดจากการแต่งงานของวิทยาการคอมพิวเตอร์กับชีววิทยา Biophysics เกิดจากการแต่งงานของชีววิทยากับฟิสิกส์ Biorobotics เกิดจากการแต่งงานของหุ่นยนต์ศาสตร์กับชีววิทยา Bionics เกิดจากการแต่งงานของวัสดุศาสตร์กับการแพทย์ Molecular Electronics เกิดจากการแต่งงานของเคมีกับวิศวกรรมไฟฟ้า เป็นต้น ..... จากนี้ไปเราจะเริ่มเห็นการแต่งงานข้ามศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่กว่าเก่าอีกครับ เพราะจะเป็นการแต่งงานข้ามไปข้ามมาระหว่าง วิทยาศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และ สังคมศาสตร์ ด้วยครับ ขอยกตัวอย่างเช่น Social Intelligence ซึ่งเป็นศาสตร์ว่าด้วยความสามารถในการรับรู้ การเข้าใจ การจัดการเพื่อจะอยู่ร่วมกันในสังคม ซึ่งศาสตร์นี้กำลังจะมีประโยชน์มากเลยล่ะครับในการสร้างสังคมของหุ่นยนต์ที่อยู่เป็นฝูง (Swarm Robots) ให้สามารถร่วมกันทำงานเป็นหมู่เหล่าได้ ซึ่งก็เป็นศาสตร์อีกศาสตร์หนึ่งที่เรียกว่า Swarm Intelligence ซึ่งความรู้ทางสังคมศาสตร์จะมีประโยชน์มาก ในการสร้างพฤติกรรมหมู่ให้ฝูงหุ่นยนต์ที่เป็นปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence)


อีกศาสตร์หนึ่งที่เป็นการแต่งงานข้ามศาสตร์ระหว่างวิทยาศาสตร์ กับ สังคมศาสตร์ ที่ผมขอยกตัวอย่างคือ Neuroeconomics ผมไม่ทราบชื่อภาษาไทยครับ เป็นการแต่งงานข้ามสายพันธ์ระหว่าง Neuroscience + Economics + Psychology ซึ่ง Neuroscience หรือประสาทวิทยานั้นเป็นเรื่องของการศึกษาเพื่อเข้าใจการทำงานของระบบประสาทของสิ่งมีชีวิต เช่น ระบบสัมผัส การรับรู้ การคิด กิจกรรมต่างๆของสมอง ในขณะที่เศรษฐศาสตร์นั้นเป็นเรื่องของการศึกษาเกี่ยวกับกิจกรรมการผลิต การกระจายและการบริโภคสินค้า-บริการ เมื่อทั้ง 3 ศาสตร์มาแต่งงานกันได้ Neuroeconomics จะได้ศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการตัดสินใจของมนุษย์ในกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ว่าสมองทำงานอย่างไรในการชั่งใจ จำแนกแยกแยะเรื่องของการได้-เสีย กับการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น ศาสตร์นี้เองที่เริ่มมีการทำวิจัยเยอะมากครับ บริษัทใหญ่ๆที่ขายของเก่งๆ มีนักวิจัยทางด้านนี้ เพราะเขาจะออกแบบสินค้าให้ตรงกับการทำงานของสมองของผู้ซื้อ ผมเคยอ่านบทความหนึ่งใน Newsweek ที่ตีแผ่ความลับของพรรครีพลับบิกัน ที่เขาสามารถเอาชนะเลือกตั้งครั้งที่แล้วมาได้ เพราะเขาใช้ศาสตร์นี้ช่วยในการสะกดจิตของผู้ลงคะแนนนี่เองครับ