05 กรกฎาคม 2551

Energy Farm & Micropower (ตอนที่ 3)


วันนี้กลับมาคุยกันต่อถึงแนวโน้มของการผลิตพลังงานใช้เองกันในบ้าน หรือ ชุมชน เพื่อผลิตพลังงานพอเพียง ซึ่งกำลังเป็นกระแสที่มาแรงมากในกลุ่มประเทศยุโรป แต่กลับค่อนข้างเหงาๆในบ้านเรา จะว่าไปแล้วเรื่องของการผลิตพลังงานไฟฟ้าเพื่อใช้เองในบ้านและชุมชนนั้น Thomas Edison ได้คิดเรื่องนี้มาตั้งแต่เขาประดิษฐ์หลอดไฟเมื่อปี ค.ศ. 1879 แล้ว เขาได้ออกแบบบ้านพลังงานพอเพียงที่ปั่นไฟฟ้าใช้จากพลังงานลม แต่ก็เพราะ George Westinghouse ที่ทำให้แนวคิดของเอดิสันต้องพับไป โดยเขาเสนอให้มีโรงไฟฟ้าเพื่อผลิตพลังงานไฟฟ้าปริมาณมากๆ แล้วส่งไปให้บ้านเรือนใช้กันผ่านสายส่ง โดยมีสถานีย่อยเพื่อแปลงแรงดันไฟฟ้า จริงๆแล้ว วิธีการหลังนี้เป็นวิธีที่ประสิทธิภาพต่ำเอามากๆเลยล่ะครับ โรงไฟฟ้ามีประสิทธิภาพเพียง 30% เพื่อเปลี่ยนพลังงานเคมีจากน้ำมันหรือก๊าซ มาเป็นไฟฟ้า แถมอีก 7% ของพลังงานสูญไฟฟ้าก็เสียไปกับสายส่ง แต่วิธีการนี้ก็ใช้กันเรื่อยมา ตลอด 100 กว่าปีที่ผ่านมานี้ ไม่มีใครคิดอะไรมาก เพราะเชื้อเพลิงฟอสซิลที่ใช้ผลิตไฟฟ้านั้นแสนจะถูก หากแต่ ณ วันนี้ ที่ราคาน้ำมันดิบสูงถึง 140 เหรียญสหรัฐ โลกเลยโหยหาอยากกลับไปใช้วิธีของเอดิสันกันแล้วครับ ในขณะนี้ประเทศเยอรมันมีการใช้ Solar Cell มากที่สุดในโลกครับ ใน 3 ปีที่ผ่านมา (ค.ศ. 2005-2007) มีบ้านจำนวน 400,000 หลังคาติดแผง Solar Cell ซึ่งสามารถผลิตไฟฟ้าได้ถึง 3000 เมกะวัตต์ มากพอที่จะทดแทนโรงไฟฟ้าได้ทั้งหมด 6 โรง ที่เมือง Aachen ในเยอรมัน เกษตรกรได้หมักซังข้าวโพดแล้วนำ Biogas มาใช้โดยต่อท่อเข้าไปกับท่อก๊าซของรัฐ สามารถเลี้ยงบ้านเรือนได้ถึง 5,000 ครัวเรือน ธุรกิจพลังงานในอนาคตจึงเป็นธุรกิจครัวเรือนไปแล้วครับ ถึงเวลาหรือยังที่เมืองไทยจะเริ่มคิดเรื่องนี้อย่างจริงจัง ........