18 พฤษภาคม 2551

Natural Intelligence - ศาสตร์แห่งศตวรรษเหนือโลกนาโน


ถ้าถามว่าหลังยุคนาโนเทคโนโลยีบูมแล้ว จะมีศาสตร์อะไรขึ้นมาแทนที่ ผมเชื่อสุดเชื่อว่าศาสตร์นั้นจะต้องเป็นเรื่องของ Natural Intelligence ซึ่งชื่อในภาษาไทยยังไม่มี แต่ผมจะลองเรียกว่า "ปัญญาธรรมชาติ" แล้วกันครับ คอยดูนะครับ อีกไม่กี่ปีต่อจากนี้ กระแสนาโนจะค่อยๆ จางหายไป กลายเป็นเรื่องของการทำวิจัยตามระบบ (Mainstream Research) ไปเรื่อยๆ แต่เรื่องที่จะฮ็อตฮิตติดตลาด จะเป็นเรื่องของ Natural Intelligence ซึ่งมนุษย์จะนำเอาศาสตร์ต่างๆ เทคโนโลยีสารพัด แม้กระทั่งปรัชญาทางด้านมนุษย์ศาสตร์ และ ศาสนา มาค้นหาเพื่อเข้าใจกลไกการทำงานของธรรมชาติ เพื่อนำไปสู่การวิศวกรรมสรรสร้างสิ่งใหม่ ดังนั้นในอนาคตศาสตร์ทางด้านนี้ ทั้ง วิทยาศาสตร์ของจิตใจ (Mind Science) วิศวกรรมเลียนแบบธรรมชาติ (Biomimetics) อวัยวกล (Bionics) สภาพล้อมรอบอัจฉริยะ (Ambient Intelligence) วัสดุอัจฉริยะ (Materials Intelligence) จะกลายมาเป็นกระแสหลักของเศรษฐกิจฐานความรู้ (Knowledge-Based Economy) และเศรษฐกิจฐานปัญญา (Wisdom Based Economy) ของอารยธรรมเรา


Natural Intelligence เป็นเรื่องของความเข้าใจพฤติกรรมของธรรมชาติ ความเป็นอยู่ของสิ่งมีชีวิต ตั้งแต่ สิ่งมีชีวิตเดี่ยวๆ ไปจนถึงการรวมเป็นฝูง เป็นสังคม เป็นอารยธรรม การเข้าใจการรวมฝูงของนก หรือ การว่ายน้ำเป็นกลุ่มของปลา สามารถนำมาสร้างเทคโนโลยีที่สามารถลดความเสียหายจากการตื่นตูมในตลาดเงิน หรือ ช่วยลดภัยภิบัติยามเกิดวิกฤติการณ์ได้ การทำความเข้าใจปัญญาของธรรมชาติจะต้องลงไปศึกษาวิเคราะห์ว่า สภาพแวดล้อมในธรรมชาติทำงานอย่างไร แล้วธรรมชาตินั้นขึ้นต่อปัจจัยอะไรบ้าง ธรรมชาติต้องการ input อะไรเพื่อให้ทำงานได้ และธรรมชาติเรียนรู้และจดจำรูปแบบได้อย่าง และทำอย่างไรในการรู้จำ ธรรมชาติทำอะไรในการนวัตกรรมสิ่งใหม่ๆ นี่แหล่ะครับศาสตร์ที่กำลังจะมาแทนที่นาโน