16 กุมภาพันธ์ 2556

Gamification - ทำโลกนี้ให้เป็นเกมส์ (ตอนที่ 2)



Picture from http://www.augmentedplanet.com/

ถ้ามีคนถามผมว่าอะไรจะเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดในปี 2013 แล้วถ้าผมมีสิทธิ์เลือกตอบได้แค่เรื่องเดียวเท่านั้น ผมก็จะตอบอย่างไม่ลังเลใจเลยว่า นี่เลย ! เรื่อง Gamification หรือทำโลกนี้ให้เป็นเกมส์เลยครับ ตลอดปี 2013 นี่หน่ะ เราจะได้ยินแต่เรื่องนี้ ไปที่ไหนคนก็จะพูดแต่เรื่องนี้ แล้วเรื่องนี้มันจะเข้ามาเปลี่ยนชีวิตของผู้คนอย่างขนานใหญ่ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้ากันเลยทีเดียว ธุรกิจต่างๆ การทำมาค้าขาย การค้าการลงทุน การศึกษา วิถีชีวิตต่างๆ จะกลายเป็นเรื่องสนุกสนาน ความบันเทิงจะแทรกซึมไปอยู่ในทุกอณูของชีวิตกันเลย ไม่ว่าเราจะทำอะไร จะกิน จะนอน ขับรถ ไปซื้อของ ทำงาน ประชุม ทานข้าว เดินเล่น ออกกำลังกาย มันจะมีความเป็นเกมส์แทรกซึมเข้าไปโดยที่พวกเราแทบไม่รู้ตัว

ความน่าสนใจของ Gamification ทำให้ธุรกิจต่างๆ เริ่มตื่นตัวและให้ความสนใจ เพราะหากใครเข้าสนามนี้และสามารถสร้างประชาคมผู้ใช้ได้ก่อน ก็จะเป็นผู้นำที่สามารถทำรายได้มหาศาล เหมือนกับที่ Facebook เคยเข้ามาบุกเบิกโซเชียลเน็ตเวอร์คเมื่อหลายปีก่อน ดังนั้น หลายๆ องค์กรจึงร่วมกันที่จะจัดประชุมทางด้านนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมรับกระแส Gamification โดยจะมีการจัดประชุมที่เรียกว่า GSummit 2013 ที่เมืองซานฟรานซิสโก ระหว่างวันที่ 16-18 เมษายน 2556 ซึ่งจะมีบริษัทและองค์กรใหญ่ๆ เข้าร่วมมากมาย ได้แก่ Microsoft, Cisco, IBM, Delta, Accenture, Bridgestone, Qualcomm, Coursera, University of Pennsylvania, Oracle, NBC-Universal, Bill & Melinda Gates Foundation, Gartner โดยหัวข้อของการบรรยายนั้น มีแต่เรื่องที่น่าสนใจ เช่น Will Wright ผู้ที่ออกแบบเกมส์ซิมูเลชั่น The Sims และ SimCity อันโด่งดังจะมาพูดเกี่ยวกับการทำโลกจริงให้เป็นเกมส์ และวิธีการต่างๆ ที่จะทำให้คนติดเกมส์ ส่วนผู้บริหารบริษัทใหญ่ๆ อื่นๆ เช่น Cisco, SAP, Microsoft, IBM, Oracle ก็จะมาเล่าให้ฟังว่า การทำ Gamification ที่ผ่านมาในบริษัทของพวกเขา ได้ให้ประสบการณ์อะไรบ้าง อะไรที่สำเร็จ และอะไรที่ทำแล้วไม่เวอร์ค บริษัท NBC-Universal ยักษ์ใหญ่ทางด้านการบันเทิง และ Coursera ซึ่งเป็นผู้นำทางด้านการศึกษาแบบออนไลน์บนอินเตอร์เน็ต จะมาบอกเล่าเก้าสิบกลยุทธ์ในการสร้างความรู้สึกร่วม และผูกพันกับบริการ

การประยุกต์ใช้ Gamification ในองค์กรจะทำให้การทำงานกลายเป็นความบันเทิงเริงใจ เพราะองค์ประกอบสำคัญ 3 ประการของมันนั่นคือ ความสนุก (Fun) การเล่น (Play) และความท้าทาย (Challenge) เป้าหมายก็คือจะทำเกิดการติดงาน (Engagement) อยากทำงาน และมีความสุขที่ได้ทำ ใครๆ ที่รู้หลักการของ Gamification ก็สามารถนำไปใช้ได้ ไม่ว่าจะเป็นการศึกษา การสาธารณสุข การเงินการธนาคาร มีหลักคิดง่ายๆ  ไม่กี่ข้อสำหรับคนที่จะนำ Gamification ไปใช้กับหน่วยงานของตนเองให้ได้ผลครับ

(1) Entertain ทำให้การทำงานมันดูน่าสนุก น่าทำ และได้ความบันเทิง
(2) Simplify ทำให้งานต่างๆ ที่ทำมันง่ายๆ เหมือนการเล่นเกมส์ เราไม่เห็นจะต้องอ่านคู่มือมากมายเพื่อจะเล่นเกมส์เลย แต่เราสามารถเล่นได้เหมือนรู้ได้เอง ฝรั่งเค้าเรียก Intuition คือแค่เห็นก็รู้ว่าจะให้ทำอะไร ทำไมเราไม่ทำงานที่ทำให้มันเกิดความรู้สึกแบบนั้นหล่ะครับ
(3) Real-time การทำงานต่างๆ ที่สามารถได้ผล รู้ผลแบบ ณ เวลาจริง เห็นเลยว่าตนเองได้คะแนนเท่าไหร่ เกิดประโยชน์ออกมาเท่าไรบ้าง แล้วสามารถเห็นได้เลย ไม่ว่าจะบนบอร์ดคะแนน บน mobile หรือบนเฟซบุ๊คขององค์กร ก็จะทำให้เกิดความท้าทายมากขึ้น
(4) Social ทำให้การทำงานเป็นเครือข่ายสังคมมากขึ้น ทั้งการช่วยเหลือกัน การแข่งขัน ให้ร่วมแบ่งปันบนเครือข่ายสังคม จะช่วยทำให้เกิดการเชื่อมโยงในการทำงาน และสามารถเรียนรู้จากคนอื่น เกิดการต่อยอด เกิดนวัตกรรมได้ง่ายขึ้น
(5) Real Rewards อย่าให้รางวัลเฉพาะในเกมส์นะครับ แต่จงให้รางวัลกับคนที่ทำงานดี (เล่นเกมส์ดี) ด้วยของขวัญในชีวิตจริง

งานวิจัยของผมที่มหาวิทยาลัยก็ได้ใช้หลัก Gamification มาประยุกต์ใช้มากขึ้นเรื่อยๆ ที่ว่าง และ โอกาส มีอีกมากสำหรับใครๆ ก็ได้ ที่มองว่าเกมส์มีคุณค่าครับผม

1 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณมากค่ะ คุณธีรเกียรติ์ เกิดเจริญมีหนังสือที่เขียนเรื่องนี้รึเปล่าคะ ช่วยแนะนำหนังสือให้หน่อยได้ไหมคะ

    ตอบลบ