09 กรกฎาคม 2553

Avatar - กายอวตาร (ตอนที่ 5)


ถ้าชาติหน้ามีจริง สิ่งที่คงจะทำให้ผมรู้สึกเป็นทุกข์และกังวลใจอย่างมากเรื่องหนึ่งก็คือ การที่คนเราจะต้องเริ่มเรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่างใหม่หมด เมื่อเราตายไปแล้ว และต้องไปเกิดใหม่ จะเป็นไปได้ไหม ที่เราจะสามารถนำพาความรู้ส่วนหนึ่ง ติดตามเราไปด้วยเมื่อเราจากโลกนี้ไป ...

นั่นเป็นความคิดของผมครับ แต่สำหรับนักวิทยาศาสตร์หลายคนที่ศึกษาเรื่องสมอง เขาก็คิดอีกมุมหนึ่งครับ เขาคิดว่า จะพอมีทางเป็นไปได้ไหม ที่เราจะเก็บรักษาความรู้ ความคิด ข้อมูลต่างๆ ในสมองของบุคคลที่กำลังจะตายเอาไว้ อย่างที่ผมเคยพูดในตอนก่อนหน้านี้ว่า มันเป็นความสูญเสียอย่างยิ่งใหญ่เลยครับ ที่ทุกๆ ปี ที่เราต้องสูญเสียความรู้จำนวนมหาศาล ที่ต้องหายไปกับคนที่ตายประมาณปีละกว่า 50 ล้านคน ความรู้ต่างๆ ที่ตายไปกับคนเหล่านั้น มีค่าเท่ากับการเผาห้องสมุดรัฐสภาอเมริกัน (ที่มีขนาดใหญ่มากและใหญ่ที่สุดในโลก) ทิ้งถึงปีละ 3 ครั้งเลย พอจะมีเทคโนโลยีอะไรไหมที่จะเก็บความรู้ต่างๆ เหล่านั้นไว้

เราลองมาดูสถานภาพของเทคโนโลยี ที่ใช้ในการเชื่อมโยงสมองให้เข้ากับคอมพิวเตอร์กันดูนะครับ นักสมองวิทยาได้ใช้เครื่องตรวจวัดคลื่นสมอง หรือ electroencephologram (ชื่อย่อ EEG) ศึกษาเรื่องของสมองและความคิดมาเป็นระยะเวลานานพอควรแล้วครับ ซึ่งเมื่อก่อนมักจะใช้ในทางการแพทย์เพื่อรักษาโรค หรือเพื่อค้นคว้าเกี่ยวกับการทำงานของสมอง เพิ่งจะเร็วๆ นี้เองครับที่ EEG กลายมาเป็นเรื่องฮิตติดตลาดในศาสตร์ทางด้าน Brain-Computer Interface หรือ BCI ซึ่งก็คือการนำเอาคลื่นสมอง หรือความคิด มาใช้ในการสั่งการและควบคุมการทำงานของคอมพิวเตอร์ ที่สำคัญคือ เทคโนโลยีพวกนี้ เริ่มกลายเป็นสินค้าที่หาซื้อได้ในท้องตลาดแล้วครับ อย่างบริษัท Mattel ได้นำเอาเจ้าอุปกรณ์ EEG แบบง่าย มาแพ็คเกจขายเป็นเกมส์ที่มีชื่อว่า Mindflex ซึ่งหาซื้อได้ที่วอลมาร์ท หรือสั่งจากเว็บไซต์ Amazon ก็ได้ (ผมพยายามสั่งอยู่ครับ แต่เขายังไม่ยอมขายนอกสหรัฐฯ เดี๋ยวจะลองหาใน eBay) โดยเกมส์นี้จะมีสายรัดสำหรับสวมใส่ที่ศรีษะ ซึ่งมันจะอ่านคลื่นสมองของเรา เราสามารถจูนสมาธิไปที่ลูกบอล แล้วพยายามคิดให้ลูกบอลนี้เคลื่อนตัวผ่านสิ่งกีดขวางต่างๆ ไปให้ได้ ซึ่งก็จะมีด่านต่างๆ ให้เราทดลองฝึกสมอง เพื่อพาลูกบอลเคลื่อนที่ไป

วันหลังมาคุยเรื่องนี้กันต่อนะครับ ...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น