16 กุมภาพันธ์ 2553

Are We Simulated in Computer ? - ฤาโลกนี้เป็นเพียงฝัน (ตอนที่ 6)


ท่านผู้อ่านเคยฝันดีดีไหมครับ ดีเสียจนเรารู้สึกเสียดายที่ต้องตื่นขึ้นมาเสียก่อน บางครั้งเราฝันดีเสียจนต้องกลับไปนอนต่อเพื่อจะฝันเรื่องเดิมต่อ แต่มันไม่เป็นเช่นนั้นสิครับ เรากลับไม่สามารถที่จะฝันเรื่องนั้นต่อได้อีกแล้ว .....

มีนักวิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่งที่คิดว่า โลกที่เรากำลังอาศัยอยู่นี้ จริงๆ แล้ว อาจจะเป็นโลกที่จำลองอยู่ในคอมพิวเตอร์ก็ได้ แต่เพราะความเสมือนจริงของมันมากเสียจน เราไม่อาจจะแยกแยะระหว่างโลกจำลอง กับโลกจริงๆได้ นักวิทยาศาสตร์ตั้งคำถามอย่างนี้ครับว่า ....

(1) เราจะมีวิธีพิสูจน์ไหม ว่าโลกที่เราอาศัยอยู่นี้เป็นโลกจริง หรือโลกจำลอง ?

(2) โลกจำลองกับโลกจริง มีอะไรที่แตกต่างกัน ?

(3) เราจะปฏิบัติตนอย่างไร หากเรารู้ว่าเรากำลังอาศัยอยู่ในโลกจำลองอยู่ ?

แน่นอนครับว่า โลกจริงมีอยู่แน่ๆ ไม่เช่นนั้นจะมีโลกจำลองได้อย่างไร เพราะจะต้องมีโลกจริงๆ อย่างน้อย 1 โลก เอาไว้เป็นที่ตั้งของคอมพิวเตอร์สมรรถนะสูง ที่เอาไว้ใช้รันโลกจำลอง แต่ไม่ได้หมายความว่า โลกจำลองนี้ จะไม่มีคอมพิวเตอร์จำลอง ที่รันโลกจำลองอีกชั้นหนึ่ง หรืออาจจะมีโลกจำลองซ้อนๆ กันไปเรื่อยๆ ... งงไหมครับ ???

แต่เราจะรู้ว่าโลกที่เราอาศัยอยู่นี้เป็นโลกจริงหรือโลกจำลองได้อย่างไร ... มีนักฟิสิกส์ชื่อว่า Bin-Guang Ma ได้เสนอว่า การที่เราจะรู้ว่าเราอาศัยอยู่ในโลกจริงหรือไม่นั้น เราก็ต้องมีจุดอ้างอิง เช่น ถ้ามีโลกจำลองให้เปรียบเทียบ ก็แสดงว่าเราอาศัยอยู่ในโลกจริง หรือ ถ้ามีโลกจริงให้เปรียบเทียบ นั่นแสดงว่าเรากำลังอาศัยอยู่ในโลกจำลอง อธิบายง่ายๆ เหมือนถ้าเราอยากจะรู้ว่าเรากำลังหยุดนิ่งหรือเคลื่อนที่อยู่ เราก็ต้องมีวัตถุอื่นเป็นจุดอ้างอิง ถ้าเราเห็นว่าวัตถุอื่นๆ อยู่นิ่งกันไปหมด นั่นแสดงว่าเรากำลังหยุดนิ่ง แต่ถ้าเห็นวัตถุอื่นเคลื่อนใกล้เข้ามาหรือไกลออกไป ก็แสดงว่าเรากำลังเคลื่อนที่อยู่

การที่เราต้องมีจุดอ้างอิงเพื่อรู้ว่าเรามีตัวตนจริงๆ หรือไม่ แสดงให้เห็นว่า ความมีตัวตน หรือ การมีอยู่จริง เป็นเรื่องของสัมพัทธภาพ (Relativity) ซึ่งขึ้นอยู่กับผู้สังเกตด้วยครับ หากเราเป็นผู้สังเกตเสียเอง เราก็จะบอกว่าเราเองนั่นแหละอาศัยในโลกของจริง ส่วนโลกที่มาอ้างอิงนั้นเป็นโลกจำลอง โดยผู้สังเกตจากอีกโลกหนึ่ง จะพูดว่าตัวเขาต่างหากที่อาศัยอยู่ในโลกของจริง แต่ตัวเราอาศัยในโลกจำลอง

ในคำสอนของพุทธศาสนานั้นมีความเชื่อเรื่องภพภูมิอยู่ ซึ่งบอกว่าเมื่อเราตายจากโลกนี้ไปแล้ว เราจะไปจุติในภพภูมิใหม่ซึ่งรันขนานกับภพภูมิที่เราเคยอยู่เดิม หรือว่าพระพุทธองค์ได้ทรงค้นพบความลับที่เกี่ยวกับโลกจำลองเมื่อ 2,600 ปีที่แล้ว ????

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น