14 ธันวาคม 2550

กล้องตาแมลงวัน - ดวงตาเวอร์ชัน 2.0


ศตวรรษที่ 21 เป็นศตวรรษแห่งการยกเครื่อง อัพเกรด ในเกือบแทบ ทุกๆ เรื่อง หลอดไฟมีการอัพเกรดมาเป็นแผ่นไฟ (Lamp Version 2.0) อิเล็กทรอนิกส์ก็ยกเครื่องเป็นอินทรีย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronics Version 2.0) เกษตรกรรมก็พัฒนาจากเกษตรกรรมแบบเดิมไปเป็น เกษตรกรรมความแม่นยำสูง (Agriculture Version 2.0) สิ่งทอก็มีวิวัฒนาการจากเสื้อผ้าที่ไม่มีหัวคิด มาเป็นอาภรณ์ฉลาดที่สามารถตอบสนอง ต่อสภาวะแวดล้อม และความต้องการของผู้สวมใส่ได้ (Textile Version 2.0) แม้กระทั่งสิ่งมีชีวิตเอง ก็กำลังจะมีการยกเครื่องเป็น Life Version 2.0 ซึ่งภาวะการมีอยู่ของชีวิต อาจจะสามารถสร้างขึ้นมาได้ด้วยน้ำมือมนุษย์


ในเรื่องของกล้องถ่ายรูป แม้ว่าจะเปลี่ยนสื่อที่เก็บภาพจากฟิล์ม มาเป็นข้อมูลดิจิตอล แต่กล้องถ่ายรูปที่มีขายในท้องตลาด ก็ยังคงวางอยู่บนพื้นฐานของการมีเพียง 1 เลนส์ เท่านั้น ในธรรมชาตินั้น ระบบประสาทด้านการมองเห็นของสัตว์มีความหลากหลายกว่ามาก กล่าวคือมีทั้งแบบที่ดวงตามีเพียง 1 เลนส์ เหมือนในกล้อง กับแบบที่ดวงตามีหลายเลนส์ หรือ ตาประกอบ (Compound Eye) ที่พบได้ในแมลงหลายชนิด เช่น แมลงวัน โดยดวงตา 1 ดวงของแมลงวันนั้นมีเลนส์ถึง 10,000 เลนส์เลยทีเดียว ทั้งนี้เลนส์แต่ละอันจะหันรับแสงที่มาจากทิศทางต่างๆ กัน ภาพที่ได้ของแต่ละเลนส์จะถูกนำไปประมวลผล แมลงวันจึงมีความไวในการรับรู้การเคลื่อนไหวรอบตัวของมันมาก เราจึงตบมันได้ยากมาก


เมื่อไม่นานมานี้ บริษัท Adobe ได้เปิดตัวกล้องถ่ายรูปรุ่นใหม่ที่มีเลนส์อยู่ 19 อัน โดยเมื่อเราถ่ายรูป เลนส์แต่ละอันจะพยายามโฟกัสไปที่วัตถุในระยะต่างๆ กัน ตั้งแต่ใกล้ไปถึงไกล ดังนั้นภาพที่เราถ่ายออกมาได้จึงมีความคมชัด และเก็บความลึกของภาพมาได้หมด นอกจากนั้นมันยังสามารถนำภาพออกมาแสดงผลในรูปแบบ 3 มิติได้ เมื่อเราได้ดูภาพนั้นอีกที จะเหมือนเราได้ดูมันจริงๆ อย่างไรก็ตามขนาดของกล้องถ่ายรูปที่บริษัท Adobe ผลิตออกมาเป็นต้นแบบนั้น ก็ยังไม่ค่อยน่าใช้ คงจะต้องพัฒนาไปอีกสักระยะ จึงจะอยู่ในขนาดที่พกพาใส่กระเป๋าได้ แต่สิ่งที่นักวิจัยที่มหาวิทยาลัยโอซาก้ากำลังพัฒนาอยู่นั้น แตกต่างออกไป เพราะ Jun Tanida ตั้งใจจะเลียนแบบแมลงในธรรมชาติอย่างเต็มที่ โดยทำให้เลนส์แต่ละตัวเล็กลงไปจนกระทั่งเป็นฟิล์มบาง โดยต้นแบบที่เขาผลิตขึ้นมาสาธิตแนวความคิดนี้มีเลนส์อยู่ 9 อัน เรียงกันเป็นแถว ภาพที่เลนส์แต่ละอันจับได้จะถูกส่งไปประมวลผลผ่านอินเตอร์เฟสแบบ USB เนื่องจากมันมีขนาดที่เล็กมาก จึงมีโอกาสนำไปติดตั้งในผลิตภัณฑ์ได้มากมาย เช่น ไปติดบนพื้นผิวของโทรศัพท์มือถือ กระจกรถยนต์ ผนังและเพดาน พื้นถนน แปะบนเสื้อผ้า หรือ แม้แต่ไปติดบนผิวของปีกเครื่องบิน มันสามารถจะทำให้ถูกลงได้ จนกระทั่งไปอยู่ได้ในทุกๆ ที่ ชีวิตในอนาคตของเราจะถูกเฝ้ามองด้วยเจ้าตาแมลงวัน ถ้าใครได้เคยดูภาพยนตร์เรื่อง Deja Vu ก็จะรับรู้ได้ถึงความน่าขนลุกนี้
(ภาพบนซ้าย - ตาแมลงวันแต่ละดวง ประกอบด้วยเลนส์และประสาทรับภาพ นับหมื่น ทำให้มันเป็นสัตว์ที่มีประสาทตาที่ไวที่สุดในโลก)
(ภาพขวา - กล้องตาแมลงวันแบบฟิล์มบาง ที่จะทำให้ความเป็นอยู่ในอนาคต ถูกจับตามองได้ในทุกๆ ที่)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น