13 มิถุนายน 2554

Games Science - วิทยาศาสตร์ของเกมส์ (ตอนที่ 11)


ทุกวันที่น้องโมเลกุล ลูกชายวัย 8 ขวบของผมกลับจากโรงเรียนมาถึงบ้าน เขาจะรีบกุลีกุจอทำการบ้าน อาบน้ำอาบท่า เพื่อที่จะได้มีเวลาเล่นเกมส์ที่เขาหลงใหล วันไหนเขาดื้อ ถ้าหากผมเพียงขู่ว่าจะไม่ให้เล่นเกมส์เขาก็จะรีบหยุดดื้อทันที ดูเหมือนเกมส์ ซึ่งถูกผู้ปกครองส่วนใหญ่มองมันเหมือนเป็นศัตรู และคอยกีดกันไม่ให้บุตรหลานเข้าใกล้ ... จะเป็นเครื่องมือในการดูแลลูกของผมได้เป็นอย่างดี

ในมุมมองของผมแล้ว เกมส์ช่วยสร้างจินตนาการ สร้างความฝัน สร้างแรงบันดาลใจ และทำให้เราอยู่กับโลกความเป็นจริงได้อย่างไม่เบื่อหน่าย ไม่หมดอาลัยตายอยาก มีแรงปรารถนา ใช้ชีวิตอยู่ต่อไปอย่างมีความฝันและความหวัง มันช่วยทำให้เราผ่อนคลาย และหลายๆ ครั้ง ได้ช่วยสร้างทักษะใหม่ๆ ให้ผู้เล่นอีกด้วย นอกจากผมจะใช้เกมส์เป็นแรงจูงใจให้ลูกๆ ทำการบ้านแล้ว ตอนนี้ผมกำลังทำวิจัยเกี่ยวกับมัน เพื่อทำให้มันเป็นส่วนหนึ่งของการวิจัย หรือทำให้การวิจัยมีความเป็นเกมส์ ซึ่งก็จะทำให้ลูกศิษย์ของผมเองสนุกอยู่กับงานที่พวกเขาทำ เหมือนอยู่ในโลกของเกมส์ที่มีความท้าทายใหม่ๆ รออยู่เบื้องหน้า ต้องฝ่าฟันด่านต่างๆ เพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย แต่ละขั้นของความสำเร็จ แต้มที่พวกเขาเก็บได้ก็๋สามารถนำมาแลกของรางวัล เพื่อเป็นยาชูกำลังให้สามารถทำงานได้อย่างมีความสุข

นักอนาคตศาสตร์หลายๆคน มองว่าศตวรรษที่ 21 เป็นศตวรรษแห่งเกมส์ เกมส์จะกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน แม้แต่งานต่างๆ ก็จะมีความเป็นเกมส์มากขึ้น โดยเฉพาะเกมส์ที่มีผู้เล่นหลายๆ คน เป็นชุมชนออนไลน์ นับวันจะมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคตการทำงานหรือกิจกรรมส่วนรวม ที่ได้ผลตอบแทนเป็นความสนุก การได้ลัลล๊า แทนค่าตอบแทนที่เป็นตัวเงิน จะมีความสำคัญขึ้นเรื่อยๆ งานประเภท DIY งานแบบเปิดเผยอย่าง Open Source หรือแม้แต่เป็นนักวิทยาศาสตร์ประเภท Citizen Scientist ที่รับงานวิจัยบางอย่างมาทำที่บ้านแบบการกุศล จะได้รับความนิยมขึ้นเรื่อยๆ ครับ คนเหล่านั้นอยากเข้ามาทำงานแบบนี้มากขึ้น ถึงแม้จะไม่ได้ค่าตอบแทนในรูปตัวเงิน แต่พวกเขาจะมีความสุขสนุกกับการทำงานพวกนี้ ดั่งว่ามันเป็นสิ่งเสพติด ที่พวกเขาสามารถอยู่กับมันได้นานๆ สามารถใช้แรงบันดาลใจและความคิดสร้างสรรได้อย่างเต็มที่ รวมไปถึงการได้แบ่งปันประสบการณ์กับคนอื่นๆ เราจึงมักได้เห็นกลุ่มคนมารวมกันขี่จักรยานท่องเที่ยวตามชนบท การออกไปทัวร์ไหว้พระ 9 วัด หรือพวกคาราวานออกแจกจ่ายสิ่งของเสื้อผ้ากันหนาวแก่ชาวเขาในช่วงฤดูหนาว เป็นต้น

การทำให้ชีวิตจริงกลายเป็นเกมส์ หรือ การทำให้เกมส์กลายเป็นชีวิตจริง เป็นเรื่องที่สามารถทำได้ง่ายขึ้นด้วยความช่วยเหลือของเทคโนโลยีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีสภาพแวดล้อมอัจฉริยะ (Smart Environment) ที่สามารถตรวจวัดสภาพแวดล้อมรอบๆ ตัวเรา รวมไปถึงสภาวะทางอารมณ์และอากัปกริยาทางกายของเรา เทคโนโลยีความจริงแต่งเติม (Augmented Reality) ที่สร้างสิ่งต่างๆ เติมแต่งต่อยอดจากของจริง ทำให้เราใช้ชีวิตกับสิ่งปลอมๆ ในโลกแห่งความเป็นจริงได้ เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์แบบสวมใส่ได้ (Wearable Electronics) ต่างๆ ที่ติดตามการใช้ชีวิตของเรา สิ่งเรานี้จะถูกนำมาช่วยทำให้เราสามารถสร้างตัวตนในเกมส์ หรือนำสิ่งที่อยู่ในเกมส์ออกมาใช้ในชีวิตจริง เช่น แลกของรางวัล หรือนำมาแบ่งปันในสังคมออนไลน์ของเราได้

1 ความคิดเห็น: