หายไปหลายวันเลยครับ เพราะมีงานต้องเคลียร์ก่อนขึ้นปีใหม่ครับ วันนี้เป็นวันส่งท้ายปีเก่า เพื่อต้อนรับปีใหม่ ผมเลยต้องขอเขียนเรื่องนี้ส่งท้ายหน่อยครับ เป็นข้อสังเกตกันว่ายุคของจักรกลฉลาดกำลังจะมาถึงแล้ว เพราะตลอดปี 2009 ที่ผ่านมาได้มีความก้าวหน้าเกิดขึ้นอย่างขนานใหญ่ทั่วโลก ซึ่งหากจะเขียนถึงเรื่องนี้อย่างเคลียร์ ๆ ต้องยาวแน่ครับ ผมขอสรุปความก้าวหน้าอย่างคร่าวๆ นะครับ
ที่เห็นอย่างเด่นชัดก็คือ หุ่นยนต์ในปี 2009 มีความฉลาดทางสังคมเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก มันเรียนรู้เรื่องอารมณ์ และสามารถที่จะสื่อสารทางอารมณ์กับมนุษย์ได้ดีขึ้น หุ่นยนต์ Simon ของสถาบันเทคโนโลยีแห่งรัฐจอร์เจีย (Georgia Institute of Technology) ที่เมืองแอตแลนต้า (ผมเคยไปเดินเล่นที่นี่ครับ) เรียนรู้ที่จะหยิบ รับ สิ่งของจากมนุษย์ โดยมันจะอ่านคำสั่งจากสายตา ท่าทาง ของเจ้าของมัน (อ่านที่ http://bit.ly/ujkpg) หุ่นยนต์ Robovie จาก Carnegie Mellon University อาศัยการสังเกตใบหน้า สายตา ท่าทางของมนุษย์ เพื่อสนทนาโต้ตอบ (อ่านต่อที่ http://bit.ly/5lSXse) หุ่นยนต์ Einstein ของ University of California San Diego สามารถเรียนรู้ใบหน้าตัวเองจากการมองกระจก มันจะลองผิด ลองถูก เพื่อเรียนรู้การทำใบหน้าเป็นอารมณ์ต่างๆ หัดทำหน้ายิ้มได้เอง (อ่านต่อที่ http://bit.ly/58vvzC) ก่อนหน้านี้ผมก็เคยเขียนเรื่องหุ่นยนต์ที่สามารถพัฒนาการเอาตัวรอด มันเรียนรู้ที่จะหลอกเพื่อนของมัน เอาเปรียบเพื่อนของมัน ในขณะที่หุ่นยนต์อีกตัวที่สร้างมาพร้อมกัน กลับพัฒนาพฤติกรรรมในการช่วยเหลือ เกื้อกูล เพื่อนฝูง (อ่านต่อที่ http://bit.ly/3OzrR) ซึ่งเป็นการพิสูจน์ว่า พฤติกรรมดีชั่ว อาจเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต ซึ่งสามารถอธิบายได้ด้วยวิทยาศาสตร์ นอกจากนั้น นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยคาลการี (University of Calgary) ในแคนาดา ยังสอนให้หุ่นยนต์ให้เรียนรู้อารมณ์ของเจ้าของ ทำให้มันรู้จักถอยห่าง เวลาเจ้าของอารมณ์เสีย (อ่าน paper นี้ได้ที่ http://bit.ly/7LVUk)
ความก้าวหน้าของหุ่นยนต์ในปี 2009 ยังไม่จบแค่นี้ครับ ผมจะมาเขียนต่อครับ อาจจะวันนี้ หรือ พรุ่งนี้ สวัสดีปีใหม่ 2553 ครับผม .....