นักวิทยาศาสตร์ได้ตั้งนิยามของการมีกิ๊กไว้ดังนี้ครับ (อ้างอิงจากวารสารวิชาการ Schmitt, D. P., & Buss, D. M. (2001). Human mate poaching: Tactics and temptations for infiltrating existing mateships. Journal of Personality and Social Psychology, 80, 894-917) "กิ๊กคือรูปแบบของความสัมพันธ์สิเน่หา ที่เกิดขึ้นเมื่อฝ่ายหนึ่งพยายามที่จะดึงดูดอีกฝ่ายหนึ่งให้เข้ามาเป็นคู่รัก โดยที่ฝ่ายนั้นมีแฟนหรือมีคู่ครองแล้ว" ในตอนที่แล้ว ผมได้พูดถึงข้อมูลจากผลงานวิจัยชิ้นหนึ่ง ซึ่งเปิดเผยว่า หญิงโสดนี่แหล่ะ คือจุดเริ่มต้นของการเกิดกิ๊กมากที่สุด
หนังสือที่น่าสนใจเล่มหนึ่งที่มีชื่อว่า Why Women Have Sex แต่งโดยจิตแพทย์ชาวอเมริกัน ดร. ซินดี เมสตัน (Cindy Meston) และนักจิตวิทยาวิวัฒนาการ ดร. เดวิด บุซ (David Buss) ซึ่งเพิ่งออกวางจำหน่ายไม่นานมานี้เอง (28 กันยายน 2552) ได้ทำการวิจัย เพื่อค้นหาเหตุผลที่ผู้หญิงมีเซ็กซ์ ทั้งนี้จากการสำรวจ และ สัมภาษณ์ ผู้หญิงจำนวน 1,006 คน ได้ผลออกมาอย่างน่าตื่นตะลึง เพราะว่าเหตุผลที่ผู้หญิงใช้ในการมีเซ็กส์นั้น มีได้มาก หลากหลาย จนแทบไม่น่าเชื่อ ซึ่งนักวิจัยทั้งสองนี้ ได้รวบรวมมาได้มากถึง 237 ข้อ อาทิ เพื่อโปรโมตตำแหน่ง เพื่อเงิน เพื่อยา เพื่อต่อรองแลกเปลี่ยน เพื่อแก้อาหารปวดหัวไมเกรน เพื่อแก้แค้นแฟนเก่า เพื่อเก็บผู้ชายไว้นานๆ เพื่อเอาชนะ เพื่อศักดิ์ศรีลูกผู้หญิง (แบบผิดๆ) ฯลฯ น่าประหลาดใจไหมครับ เราเคยคิดแบบบ้านๆ (Conventional Wisdom) กันว่าผู้หญิงมีเซ็กซ์ก็เพราะความรัก หนังสือเล่มนี้ได้ลบล้างความเชื่อเหล่านั้นไปเลย .....
หนังสือเล่มนี้ยังเปิดผลผลการศึกษาว่า ผู้หญิงโสดจำนวนมากอยากกิ๊ก โดยแย่งผู้ชายที่เธอคิดว่าดี น่าสนใจ จากแฟนหรือภรรยาของเขา ในบางรายนั้น เธอมีความอุตสาหะมากแม้จะต้องใช้เวลาหลอกล่อฝ่ายชายอยู่หลายปี เหตุผลหลักของการกิ๊กของสาวโสด ก็คือผู้ชายดีๆ ถูกยึดครองไปหมดแล้ว ผู้แต่งหนังสือเล่มนี้ ได้กล่าวว่า
"หนังสือเล่มนี้พยายามแสดงเหตุผลว่าทำไมคนถึงกิ๊กกัน แต่การให้เหตุผลนี้ ไม่ได้ทำให้สิ่งนี้ชอบธรรมขึ้นหรอกนะ เพราะจริงๆ แล้ว การกิ๊กกันก็ยังเป็นการกระทำที่เลวอยู่ดี"
ในภาพยนตร์เรื่อง "รถไฟฟ้ามาหานะเธอ" นั้น นางเองของหนังเรื่องนี้ โชคดีมากที่ ในที่สุดเธอก็สามารถจีบผู้ชายโสดที่ใครๆ ก็อยากเป็นแฟนจนสำเร็จ โดยที่ไม่จำเป็นต้องไปกิ๊กมาจากผู้หญิงอื่น แต่ในชีวิตจริง .... ทุกครั้งที่ผมโดยสารรถไฟฟ้า BTS ผมมองเห็นหญิงสาวรูปร่างบอบบาง หน้าตาดี จำนวนมาก ยืนโหนราวจับ โอนเอนไปมาอย่างน่าสงสาร โดยผู้ชายทั้งหลายที่นั่งอยู่ก็ไม่ลุกให้นั่ง ผมเคยถามตัวเองเหมือนกันว่า จะมีความเป็นไปได้มากแค่ไหนเชียว ที่คน 2 คนที่มาเจอกันบนรถไฟฟ้า แล้วในที่สุดได้แต่งงานกัน ???