24 เมษายน 2555

อาภรณ์อัจฉริยะ - Wearable Intelligence (ตอนที่ 1)


ทุกครั้งที่ผมเดินทางไปทำงานหรือท่องเที่ยวในจังหวัดที่มีชนเผ่า หรือ ชนกลุ่มน้อยอาศัยอยู่ ผมมักจะต้องหาโอกาสไปดูผ้าทอที่เป็นเอกลักษณ์ของชนเผ่าเหล่านั้น เพราะผ้าทอของแต่ละชนเผ่าได้เก็บสารสนเทศ หรือ DNA ของวิถีชีวิตที่เป็นรากเหง้าของแต่ละชาติพันธุ์เอาไว้ และถ้าหากเราวิเคราะห์ลายผ้าเหล่านั้นด้วยหลักคณิตศาสตร์ เราจะสามารถติดตามวิวัฒนาการของผ้า และความเชื่อมโยงของลายผ้าแต่ละลาย ของแต่ละเผ่าพันธุ์ได้เลย ทั้งนี้ ลายผ้าทอของชนเผ่าต่างๆ ได้ทำหน้าที่เป็นเสมือนฮาร์ดดิสก์หรือศิลาจารึกที่เก็บข้อมูล ความเป็นมาของเผ่าพันธุ์และสืบทอดมาจนถึงปัจจุบันนี้ ผ้าทอเหล่านี้จึงไม่ได้มีหน้าที่เพียงแต่เป็นอาภรณ์สำหรับนุ่งห่มปกปิดผิวกายเท่านั้น แต่มันยังเก็บสารสนเทศและทำหน้าที่บ่งบอกความเป็นตัวตนของสังคมหนึ่งๆ ได้อีกด้วย นี่จึงนับว่าผ้าทอพวกนี้มีความฉลาดเฉียดๆ มาใกล้ๆ ความเป็นอาภรณ์อัจฉริยะ (Wearable Intelligence) เลยทีเดียวครับ

ถ้าจะให้ผมลองแบ่งยุคของเสื้อผ้าออกตามระดับวิวัฒนาการ ผมก็จะแบ่งออกเป็น 2 ยุคครับ คือ ยุคเสื้อผ้าโง่ (Dump) กับยุคเสื้อผ้าฉลาด (Smart Garment)  เสื้อผ้าโง่คืออะไร ... ก็คือเสื้อผ้าที่ไม่มีความฉลาดเลยครับ คือเราเอามันมาใส่เพื่อปกปิดผิวกายของเราเท่านั้น มากไปกว่านั้นหน่อย เราอาจจะเอาไว้อวดสวย อวดร่ำอวดรวย แต่ตัวเสื้อผ้าไม่ได้มีสมองหรือระดับความสามารถในการประมวลผลอะไรเลย นับตั้งแต่มนุษย์คนแรกได้เริ่มใส่เสื้อผ้าเมื่อประมาณ 1-2 แสนปีที่แล้ว เสื้อผ้าในปัจจุบันก็ยังไม่ได้ฉลาดขึ้นเลยครับ เรายังคงใช้ให้มันทำงานด้วยหลักพื้นฐานเดิมๆ คือเอาไว้ปกปิดผิวกายของเรา

แต่เสื้อผ้าฉลาดจะมีความสามารถมากเกินไปกว่าการทำหน้าที่แค่ทำไม่ให้เราโป๊ หรือดูอนาจาร ในปี ค.ศ. 2002 ได้มีภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดเรื่องหนึ่งที่มีชื่อว่า The Tuxedo ซึ่งนำแสดงโดย เฉิน หลง  ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้เปิดแนวคิดของเสื้อผ้าที่มีหัวคิด สามารถรับสัมผัส คำนวณวิเคราะห์ ประมวลผล และปฏิบัติงานตามคำสั่งซึ่งทำให้ผู้สวมใส่ที่เป็นคนธรรมดา กลายเป็นซูเปอร์ฮีโร่ไปเลยครับ ในภาพยนตร์เรื่องนี้ เราจะเห็น เฉิน หลง เรียกใช้โปรแกรมที่ทำให้เขาสามารถเต้นลีลาศได้ ทั้งที่ไม่เคยเรียนเต้นมาก่อน รวมทั้งสามารถต่อสู้ เตะ ต่อย ชก ได้ เหนือมนุษย์ธรรมดา เทคโนโลยีแบบนี้เราเรียกว่า เทคโนโลยีเพิ่มสมรรถภาพของมนุษย์ (Human Performance Enhancement) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน เป็นเทคโนโลยีที่จะทำให้คนพิการกลายมาเป็นคนธรรมดา และคนธรรมดากลายมาเป็นมนุษย์พิเศษ นักพัฒนาเทคโนโลยีทั่วโลก กำลังขะมักเขม้นแข่งขันกันวิจัยและพัฒนาเจ้าเทคโนโลยีที่สวมใส่ได้นี้ ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น เกาหลี สหรัฐอเมริกา ส่วนในประเทศไทยของเรานั้น ทีมงานของศูนย์นาโนเทคโนโลยี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้รับสนับสนุนจากศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (NANOTEC) ให้ศึกษาและพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าว เพื่อไม่ให้ประเทศไทยตกกระแสที่กำลังมาแรงนี้ครับ

ในตอนต่อๆ ไปของบทความซีรีย์นี้ ผมจะทยอยนำเรื่องราวต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับอาภรณ์อัจฉริยะจากกลุ่มวิจัยทั่วโลก มาเล่าให้ฟังกันครับ


** โครงการ Wearable Intelligence ได้รับการสนับสนุนจาก ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ **



4 ความคิดเห็น: