เรื่องวิกฤตข้าวยากหมากแพงที่กำลังเกิดขึ้นอย่างรุนแรงอยู่ในขณะนี้ ว่ากันว่ามันก็มีสัญญาณเตือน มีลางบอกเหตุมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ไม่มีผู้นำประเทศไหนในโลกที่ใส่ใจ ถึงตอนนี้วิกฤตนี้ลามไปทั่วโลกแล้ว วิกฤตอาหารครั้งนี้มีสาเหตุหลักๆ 4 ประการคือ (1) การเกษตรในประเทศกำลังพัฒนามีกำลังผลิตลดต่ำลง อันเป็นสาเหตุมาจากไม่มีเงินมาซื้อเมล็ดพันธุ์ดีๆ ปุ๋ย รวมทั้งระบบชลประทาน (2) ปัญหาจากการอุดหนุนให้มีการปลูกพืชพลังงานเพื่อเป็น Biofuel ทำให้พืชที่เป็นอาหารถูกนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิง ไม่ว่าจะเป็น Ethanol หรือ Biodiesel ก็แย่พอกันครับ ยกเว้นจะผลิตเพื่อใช้อย่างพอเพียงในชุมชน แต่ถ้าคิดจะทำระดับอุตสาหกรรม ถือว่าคิดผิดครับ (3) Climate Change ทำให้ความสามารถในการทำเกษตรลดต่ำลง (4) การบริโภคอาหารเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าการผลิตอาหาร โดยเฉพาะจีนและอินเดียมีรายได้สูงขึ้น รวมทั้งมีการบริโภคเนื้อสัตว์มากขึ้นในประเทศเหล่านี้ ทำให้อาหารจำพวกธัญพืชถูกนำไปใช้ผลิตเนื้อสัตว์ โลกจึงขาดแคลนธัญพืชสำหรับให้มนุษย์กิน โดยเฉพาะในประเทศจนๆ อย่างแอฟริกา
วิธีแก้วิกฤตอาหารโลกอาจทำได้ 3 ทาง แต่ต้องทำพร้อมๆกันครับคือ (1) จัดตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในประเทศกำลังพัฒนา ให้สามารถซื้อปุ๋ยและเมล็ดพันธุ์ชั้นดี ที่ทนแล้งทนโรคได้ (2) ยกเลิกการอุดหนุนการปลูกพืชพลังงานที่ทำร้ายเกษตรกรรมทั้งหมด (ฝรั่งถึงกับประณามโดยใช้คำพูดว่า Biofuel Nonsense เลยครับ) นั่นคือ ไม่เอาพืชอาหารไปทำเชื้อเพลิง ไม่ปลูกพืชพลังงานในพื้นที่ปลูกพืชอาหาร รวมไปถึงไม่ทำลายป่าเพื่อปลูกพืชพลังงาน (3) นำเทคโนโลยีไปช่วยเหลือเกษตรกรรมให้มากขึ้น เพื่อให้การเกษตรในยุต Climate Change มีภูมิคุ้มกันสูงขึ้น ทำให้เกษตรมีความแม่นยำและทำนายได้มากขึ้น
(ภาพบน - ในฟิลิปปินส์ ทหารต้องเฝ้าโกดังเก็บข้าวอย่างเข้มข้น เพื่อมิให้ประเทศนี้เกิดกลียุค)