หายไปหลายวันครับ ผมออกภาคสนามที่ อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี สวนทางกับผู้คนที่หนีไปเที่ยวด้านอื่นๆ กันหมด เนื่องจากกลัวอิทธิพลของพายุไซโคลนนาร์กีส ที่พุ่งขึ้นฝั่งพม่า แล้วเกรงว่าแถบตะวันตกจะเจอฝน จริงๆ แล้วก็มีแต่เมฆชั้นสูงเท่านั้นแหล่ะครับที่จะข้ามผ่านเทือกเขาตะนาวศรีมาได้ เมฆชั้นต่ำกับชั้นกลางที่สร้างฝนจะถูกบัง แล้วตกเป็นฝนในฝั่งพม่า ที่ อ. สวนผึ้งเลยอากาศดี มีฝนปรอยๆเท่านั้นเองครับ ประเทศไทยค่อนข้างโชคดี ที่สภาพอากาศที่เรียกว่า Severe Weather ไม่ค่อยรุนแรงเหมือนประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้การเกษตรในบ้านเราเอาตัวรอดไปได้เรื่อยๆ แต่ Climate Change ในระยะหลังๆ คอยย้ำเตือนสิครับว่า ประเทศไทยต้องการไฮเทคมากขึ้นในการทำเกษตร ทั้ง IT, Electronics, Biotechnology, Materials Science, Nanotechnologty, Geo-informatics ต้องเอามาช่วยภาคเกษตรให้มากขึ้นครับ
วันนี้ผมขอแนะนำงานประชุมทางด้านนาโนแห่งปี 2008 ในระดับทวีปเอเชีย นั่นคือ AsiaNANO2008 - The 2008 Asian Conference on Nanoscience and Nanotechnology ซึ่งจะจัดระหว่างวันที่ 3-7 พฤศจิกายน 2551 นี้ที่ Biopolis ประเทศสิงคโปร์ครับ งานนี้เหมือนสิงคโปร์เขาจะประกาศว่า ในย่านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นี่ เขาไม่ยอมไทยนะ เพราะเขาเล่นจัดชนกับ NanoThailand 2008 International Conference ซึ่งจะจัดระหว่าง 6-8 พฤศจิกายน 2551 เลยทีเดียว เนื้อหาของการประชุมประกอบด้วยหัวข้อต่อไปนี้ครับ
- Carbon nanotubes and related nanomaterials
- Graphene: Materials and devices Nanomagnetics, spintronics and multiferroics
- Nanobioscience and nanobiotechnology
- Functional Nanoassembly: nanoparticles, quantum dots, nanoarchitectures and self-assembled architectures
- Multi-paradigm simulation at the nano-scale: methodology and applications
- Nanofabrication: nanoimprinting, nanolithography and related techniques
- Materials Issues in Hydrogen Storage: From Bulk to Nano and Asian Consortium for Computational Materials Science (ACCMS) Working Group Meeting on Hydrogen Storage Materials
จะเห็นว่าเนื้อหาของการประชุมค่อนข้าง Focus ในเรื่องของ materials และ nanostructure มากกว่างาน NanoThailand2008 ที่ค่อนข้างกว้างกว่า งานนี้เสียเปรียบสิงคโปร์ล่ะครับ เพราะเจาะลึกเทคนิคมากกว่า ต้องทำใจครับ บ้านเราคนทำนาโนแบบเจาะลงไปลึกๆมีน้อย ทำให้งานประชุมวิชาการต้องทำกว้างๆ เอาไว้แบบนี้ล่ะครับ ................